ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2563 ได้มีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญากู้เงินและออกตราสารหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.แล้ว จำนวน 373,761 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.38 ของวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก. และมีวงเงินกู้คงเหลือตามพ.ร.ก.จำนวน 626,239.00 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้ดำเนินการทยอยกู้เงินเมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเพิ่มเติมตามความจำเป็นและความสอดคล้องกับการใช้เงินของโครงการต่อไป

สำหรับวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกู้ ประกอบด้วย

1) เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

2) เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

3) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

โดยเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ดังกล่าวสามารถนำไปใช้จ่ายตามแผนงานโครงการตามบัญชีท้าย พ.ร.ก. อันประกอบด้วย 3 แผนงานหรือโครงการ ดังนี้

(1) แผนงานที่ 1 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข วงเงิน 45,000.00 ล้านบาท

(2) แผนงานที่ 2 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ วงเงิน 555,000.00 ล้านบาท

(3) แผนงานที่ 3 แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000.00 ล้านบาท

การดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการภายใต้ พ.ร.ก.จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2563 มีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 4 โครงการ ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (แผนงานที่ 2) โดยสามารถเยียวยาให้กับผู้มีสิทธิ์ จำนวน 30,524,376 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 89.92 จากกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 33,946,103 ราย

ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563 ครม.ได้อนุมัติแผนงานหรือโครงการภายใต้ พ.ร.ก.ดังกล่าวแล้ว จำนวน 46 โครงการ วงเงินรวม 476,587.44 ล้านบาท และหน่วยงานเจ้าของโครงการได้เบิกจ่ายเงินกู้แล้ว จำนวน 298,071.71 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.54 ของกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ

ส่วนการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลังจะรายงานผลการกู้เงินและผลสัมฤทธิ์เมื่อโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จต่อไป