ไม่พบผลการค้นหา
โผทหารกลาง เม.ย. 2565 ในส่วน ทบ. ซ่อน “คลื่นใต้น้ำ” รอเวลาเป็น “สึนามิ” ช่วงโผโยกย้ายปลายปี ก.ย.นี้ โดยเฉพาะพลังของ ตท.26-27-28 ที่ต่างขบเหลี่ยมกันเอง

เพราะหากขยับหนึ่งตำแหน่งก็จะโดมิโน่ไปหมด โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ตั้งแต่ระดับ “ผู้บัญชาการกองพล” จนถึง “แม่ทัพภาคที่ 1” ที่เป็นเส้นทางเหล็กสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ทำให้โยกย้ายกลางปี “บิ๊กบี้”พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เลือกที่จะ “ไม่ขยับเก้าอี้” ใดๆ เพื่อสยบ “คลื่นใต้น้ำ” นี้ไว้อีกครึ่งปี

แต่ที่ถูกจับตาคือ “บิ๊กโต”พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าพบ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ ทำเนียบรัฐบาล ราว 30 นาที เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา โดย พล.ท.สุขสรรค์ เข้าขอบคุณและมอบของที่ระลึกย้อนหลังงานวันสถาปนา ทภ.1 เมื่อ 13ม.ค. หลัง นายกฯ ไม่ได้ไปเป็นประธานงานเฉกเช่นทุกปี เพราะ ทภ.1 จัดงานเป็นการภายใน ด้วยสถานการณ์โควิด จึงไม่ได้เชิญอดีตผู้บังคับบัญชา รวมทั้ง “3ป.บูรพาพยัคฆ์” ด้วย

ทำให้ถูกตีความอย่างมากในช่วงจัดโผโยกย้ายกลางปี 2565 จากนั้น นายกฯ ได้นำประชุม “บอร์ด 7 เสือกลาโหม” เมื่อ 4มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเคาะโผครั้งสุดท้าย ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่ง นายกฯ ก็ยึดตามที่เหล่าทัพเสนอมา ไม่มี “ล้วงลูก” แต่อย่างใด

สุขสรรค์ หนองบัวล่าง -2DA1-4F7E-9143-0A129D35CEC2.jpeg

(พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1)

ชื่อของ พล.ท.สุขสรรค์ ในโผโยกย้ายปลายปี 2565 ก็จะขึ้นตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. เป็นอีกแคนดิเดต ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ. ที่จะเกษียณฯ ก.ย. 2566

แต่ก็มีอีกแคนดิเดตที่ถูก “วางตัว” ไว้อยู่แล้ว คือ “บิ๊กต่อ”พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่จะต้องขึ้นเป็น รองผบ.ทบ. ครองอาวุโส ติดยศ “พลเอกพิเศษ” รอขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อน ตท.23 เกษียณฯพร้อมกัน ก.ย.67 โดย พล.อ.เจริญชัย เป็นทหารเสือฯ สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พล.ท.สุขสรรค์ เป็นทหารสายบูรพาพยัคฆ์ สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งระหว่างน้อง “2ป.ประยุทธ์-ประวิตร” ก็สะเทือนมาถึง ทบ. จึงเกิดกระแสข่าวทำนองว่า พล.ท.สุขสรรค์ ก็ลุ้นชิง ผบ.ทบ. เช่นกัน จึงมี “สูตรพิสดาร” โยก พล.อ.เจริญชัย ไปเป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” แทน เพื่อเปิดทางให้ พล.ท.สุขสรรค์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น

เพราะชื่อ พล.อ.เจริญชัย ถูกวางตัวเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไปเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่มีสัญญาณเปลี่ยนคน ซึ่งก็ไม่มีสัญญาณนี้แต่อย่างใด ส่วนเก้าอี้ปลัดกลาโหม ก็มีแคนดิเดตอยู่แล้ว คือ “บิ๊กหนุ่ม”พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม (ตท.24)

เจริญชัย หินเธาว์ 9-9C97-EF2B93D40885.jpeg

(พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.)

อีกชื่อที่ถูกโฟกัส คือ “บิ๊กอ๊อบ”พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา (ตท.24) ด้วยเหตุไม่จบ นายร้อย จปร. แต่จบจากนายร้อย VMI สหรัฐฯ ทำให้ พล.อ.ทรงวิทย์ ไม่สามารถขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ได้ ด้วยเหตุ “ม่านประเพณี” สัญญาณนี้ชัดเจนตั้งแต่ พล.อ.ทรงวิทย์ ถูกสกัดไม่ได้ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ต้องมาติดยศ “พลเอก” ในตำแหน่งนี้แทน จึงมีการมองว่าจะมีการส่ง พล.อ.ทรงวิทย์ ไปโตที่ บก.กองทัพไทย หรือไม่

แต่เส้นทางของ พล.อ.ทรงวิทย์ ไม่ง่ายเช่นนั้น แม้จะเป็น “ทหารคอแดง” เช่นกัน เพราะฝั่ง บก.กองทัพไทย มีแคนดิเดต ผบ.ทหารสูงสุด อยู่แล้ว คือ “บิ๊กบุ๋ม” พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ซึ่ง พล.อ.สุวิทย์ เป็นทหารม้า พล.ร.2 รอ. เหมือนกับ “บิ๊กแก้ว”พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาการแต่งตั้งในยุค พล.อ.เฉลิมพล จะพบว่ามือทำงานล้วนเป็น “สายทหารม้า” หรือไม่ก็ เพื่อน ตท.21 หรือสายลพบุรี “พิบูลวิทยาลัย” อีกทั้ง พล.อ.สุวิทย์ กับ พล.อ.เฉลิมพล เป็น “ทหารม้าคอแดง”ทั้งคู่ด้วย

สุวิทย์ เกตุศรี-B3DE-85310592FAFE.jpeg

(พล.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง)

พล.อ. ธิติชัย เทียนทอง-58A17792BDF3.jpeg

(พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รองเสนาธิการทหาร)

แต่ว่ากันว่า ผบ.ทหารสูงสุด ไม่จำเป็นต้องเป็น “ทหารคอแดง” เหมือนกับ ทบ. เพราะยังไม่มี “ธรรมเนียม” ตายตัว เพราะ พล.อ.เฉลิมพล ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ด้วยแรงสนับสนุนจาก “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผบ.ทบ. ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อน ตท.20-21 รุ่นติดกัน จึงทำให้ทหารที่ไม่ใช่คอแดงใน บก.กองทัพไทย มีความหวัง หนึ่งในแคนดิเดต คือ “บิ๊กจ่อย”พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง (ตท.24 เกษียณฯ ปี 2568) รองเสนาธิการทหาร ที่เป็นลูกหม้อ บก.กองทัพไทย แต่ไม่ใช่”ทหารคอแดง” ก็ลุ้นนั่ง ผบ.ทหารสูงสุด หลัง พล.อ.เฉลิมพล เกษียณฯ ก.ย. 2566 เช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจาก โผทหาร ทบ. ที่สะเทือนไปถึง บก.กองทัพไทย ด้วย วัฒนธรรม “พรรคพวก-รุ่น” นำมาสู่การ “ข้ามห้วย-เสียบยอด” ทำให้ “กองทัพ” ฝุ่นตลบทุกครา เมื่อถึงฤดูโยกย้าย แถมเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้าย “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” ด้วย ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทั้งสิ้น