ต่างประเทศ
สหรัฐฯ ขอถอยไม่หนุนอิสราเอล หากเข้ายึดครองฉนวนกาซาหลังสงครามจบ
การแถลงถึงความคิดเห็นของไบเดน เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เสนอแนะว่าอิสราเอลจะควบคุมความมั่นคงในฉนวนกาซาหลังสงครามจบลง และอิสราเอลจะรับผิดชอบต่อความมั่นคงเป็นระยะเวลาที่ “ไม่มีกำหนด”
เนทันยาฮูยังระบุกับสำนักข่าว ABC News เมื่อวันจันทร์ (6 พ.ย.) ด้วยว่า “เมื่อเราไม่มีความรับผิดชอบด้านความปลอดภัย สิ่งที่เรามีอยู่ก็คือการปะทุของความหวาดกลัวของกลุ่มฮามาส ในระดับที่เราไม่อาจจินตนาการได้”
เคอร์บีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า มีความ “จำเป็นที่จะต้องมีการสนทนาที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวกับลักษณะของฉนวนกาซาหลังความขัดแย้ง และการปกครองว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร” เคอร์บียังกล่าวเสริมอีกว่า “สิ่งที่เราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับพันธมิตรอิสราเอลของเรา คือสิ่งที่ไม่ควรจะเป็น และจะไม่เป็นเหมือนกับที่เราเคยเห็นในวันที่ 6 ต.ค.”
ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยกล่าวว่า การที่อิสราเอลจะยึดครองฉนวนกาซานั้นจะเป็น “ความผิดพลาด”
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินต่อกลุ่มฮามาส หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวก่อเหตุบุกโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 1,400 ราย ตามการระบุของเจ้าหน้าที่อิสราเอล และกลุ่มฮามาสยังได้จับตัวประชาชนไปกว่า 230 คนเป็นตัวประกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้ อิสราเอลเริ่มการโจมตีฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 10,328 คน โดยรวมถึงเด็ก 4,237 คน ตามการระบุของหน่วยงานสาธารณสุขปาเลสไตน์
ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างปฏิเสธแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้น สำหรับข้อเรียกร้องในการหยุดยิง อย่างไรก็ดี อิสราเอลระบุว่ากลุ่มฮามาสควรปล่อยตัวประกันก่อนการหยุดยิง ในขณะที่กลุ่มฮามาสกล่าวว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยตัวประกัน หรือหยุดการต่อสู้ใดๆ ในขณะที่ฉนวนกาซายังคงถูกอิสราเอลโจมตีอยู่
กองทหารภาคพื้นดินของอิสราเอล ได้ต่อสู้กับนักรบฮามาสในฉนวนกาซาเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยกองกำลังอิสราเอลได้ตัดดินแดนฉนวนกาซาออกเป็น 2 ส่วน และเดินหน้าการล้อมรอบเมืองกาซาเอาไว้ ทั้งนี้ แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ในขณะนี้กองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอล “อยู่ในปฏิบัติการภาคพื้นดินในส่วนลึกของเมืองกาซา และสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อกลุ่มฮามาส”
อิสราเอลได้เข้าโจมตีอีกระลอกทั่วฉนวนกาซาเมื่อวันอังคาร ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์อีกหลายร้อยคนพยายามหนีออกจากเมืองกาซาไปทางทิศใต้ โดยประชาชนบางคนต้องเดินทางหนีด้วยเกวียนลา ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเดินเท้า บางคนเข็นญาติผู้สูงอายุด้วยรถเข็น ซึ่งตกอยู่ในสภาพที่หมดเรี่ยวแรงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ประชาชนปาเลสไตน์หลายคนไม่มีสิ่งของอะไรติดตัวเลยนอกจากเสื้อผ้า
ชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนปฏิบัติตามคำสั่งของอิสราเอล ในการมุ่งหน้าหลบภัยไปที่พื้นที่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เพื่อหนีออกจากเส้นทางการโจมตีภาคพื้นดิน ในขณะที่ประชาชนคนอื่นๆ อีกหลายคนวิตกที่จะหนีออกจากบ้านตัวเอง เนื่องจากกองทหารอิสราเอลเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของเส้นทางเหนือ-ใต้ อย่างไรก็ดี การทิ้งระเบิดในพื้นที่ทางใต้ของฉนวนกาซาโดยอิสราเอลยังคงดำเนินอยู่ต่อไป
นอกจากการโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดแล้ว อิสราเอลยังได้ปิดล้อมฉนวนกาซา โดยจำกัดการเข้าถึงอาหาร น้ำ และไฟฟ้าอย่างเข้มงวด และตัดการจ่ายเชื้อเพลิงให้กับประชาชนมากกว่า 2.3 ล้านคนที่ติดอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นเขตปิดล้อมที่ถูกปิดสนิท
ทั้งนี้ ความช่วยเหลือจำนวนเล็กน้อย ได้ถูกนำเข้ามาผ่านทางจุดข้ามแดนราฟาห์ของฉนวนกาซากับอียิปต์ แต่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกความช่วยเหลือนั้นว่าเป็น "หยดเล็กๆ" ของความช่วยเหลือต่อ "มหาสมุทร" ของความต้องการ
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) กล่าวว่า ขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมซึ่งได้นำเวชภัณฑ์ไปโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ถูกไฟไหม้ในเมืองกาซา โดยมีคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ที่มา:
