ไม่พบผลการค้นหา
‘เสรีพิศุทธ์’ เชื่อ กกต.ไต่สวน ‘พิธา’ ม.151 ฝ่าฝืนลงสมัครไม่ส่งผลกระทบ-ไร้ความวุ่นวาย แนะ ส.ว. อย่าใช้เหตุนี้ปัดยกมือหนุนพิธา มองปม ‘ปาตานี’ แบ่งแยกดินแดนไม่ได้

วันที่ 10 มิ.ย. 2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต. มีคำสั่งไต่สวนการถือหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในประเด็นการฝ่าฝืนมาตรา 42 (3) และ ม.151 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้สนใจ ไม่ได้เข้าไปยุ่ง แต่ก็มีบ้างเวลาประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่พิธานำเรื่องดังกล่าวมาเล่า หรือปรารภให้ฟังในฐานะผู้รับมอบอำนาจจัดการมรดก เพราะช่วงนี้พิธากำลังรวบรวมเสียงตั้งรัฐบาล ไม่อยากให้มีปัญหาอุปสรรคอะไร 

เมื่อถามว่า กังวลกับการจัดตั้งรัฐบาล และจะกระทบมาถึงพรรคเสรีรวมไทยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลจริงๆ และมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบจนทำให้เกิดความวุ่นวายกับพรรคเสรีรวมไทย ส่วนเรื่องที่วุ่นวายนั้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มันเลวร้ายที่สุด คนเขียนเจ้าเล่ห์ มีความรู้ความชำนาญ แต่แทนที่จะทำให้เกิดผลดีกับชาติบ้านเมืองกลับไปรับใช้เผด็จการ 

ส่วนการที่ กกต. จะส่งฟ้องศาลอาญาซึ่งใช้ระยะเวลานานในการพิจารณาคดี จะกลายเป็นช่องโหว่ทำให้ ส.ว. ไม่โหวต พิธา เป็นนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เวลาส่งไปฟ้องศาล ศาลรับคำฟ้อง กว่าจะนัดวันไต่สวน แต่ย้ำว่า ส.ว. จะเอามาอ้างไม่ได้ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดว่า ถ้าคดียังไม่ถึงที่สุด ถือว่าไม่มึความผิด 

ส่วนเรื่อง "ปาตานี" จะมีการทำประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า อย่าไปคิดมาก เพราะอย่างไร ตามรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว จะแบ่งแยกไม่ได้ ส่วนกรณีที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร ลาออกจากพรรคเสรีรวมไทย มีการโทรมาร่ำลา ยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งภายใน และสมชัย ไม่ได้น้อยใจอะไร