วันที่ 23 ก.พ. 2565 นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธ์โอมิครอน ทวีความรุนแรงขึ้น ในแต่ละวันพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงถึง 20,000-30,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อมาจากภายในครอบครัว และคลัสเตอร์โรงเรียน ทั้งนี้จากการประเมินของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ประมาณการณ์ว่ากลางเดือนมีนาคมยอดผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 50,000 คน อย่างแน่นอน
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นน่าเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนัก ตลอด 2 ปีมานี้ไม่ได้พักเลย อ่อนล้าเต็มทน ล่าสุดบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดเกือบ 200 ราย ส่งผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งที่ผ่านมารัฐบาลละเลย ไม่ให้ความสำคัญ ดังนันจึงเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการแทพย์ลงอย่างสิ้นเชิง หวังว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเห็นความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์และดูแลมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่าทอดทิ้งกลุ่มคนเหล่านี้
นพ.โอชิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้ป่วยหลายรายยังไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ ผู้ป่วยหลายคนต้องนอนรอความตายที่บ้าน นอนข้างถนนเพื่อรอการรักษา ในขณะที่เตียงในโรงพยาบาลรับไม่ไหวแล้ว เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ป่วยจำนวนมากที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา รัฐบาลต้องบริหารจัดการอย่างมีระบบหากไม่ทำอะไรเลยจะส่งผลให้ประชาชนไร้ทางออก
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงสั่งการจากห้องแอร์เช่นเดิมไม่เคยลงมาแก้ปัญหาด้วยตนเอง อีกทั้งยังละเลยในการป้องกันเพราะหลักคิดที่ว่า โควิดสายพันธ์โอไมครอนไม่รุนแรง แต่หากสายพันธ์ BA.2 เข้ามาจะหนักกว่านี้ ดังนั้นรัฐบาลควรนำงบประมาณที่จะไปซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท นำมาซื้อเครื่องตรวจหาเชื้อหรือ ATK หรืออุปกรณ์ปกป้องชีวิตมาให้ผู้นำหมู่บ้านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านหรือ อสม.จะเกิดประโยชน์มากกว่าการซื้ออาวุธมาก พล.อ.ประยุทธ์ ควรใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์กับประชาชน อย่าใช้เพื่อเอื้อพวกพ้อง อายประชาชนบ้าง”นพ.โอชิษฐ์ กล่าว