ต่างประเทศ
ชาวเน็ตฮ่องกงล่าชื่อ ต้านเขื่อนจีนในแม่น้ำโขง ผนึกกำลัง 'พันธมิตรชานม'
ผู้ใช้งานบัญชีทวิตเตอร์ชาวฮ่องกงรายหนึ่งทวีตข้อความเชิญชวนให้ร่วมลงชื่อ เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาช่วยยับยั้งจีนไม่ให้สร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงตอนบน พร้อมติดแฮชแท็ก #MilkTeaAlliance (พันธมิตรชานม) โดยระบุว่า การลงชื่อครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือพี่น้องอาเซียนต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงชื่อได้ที่เว็บไซต์ petitions.whitehouse.gov
การรณรงค์ยับยั้งโครงการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงตอนบนได้อ้างอิงถึงรายงานวิจัยฉบับใหม่ที่ชี้ว่า จีนซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของแม่น้ำโขง มีระดับน้ำในแม่น้ำโขงตอนบนที่ไม่ได้ลดลงเหมือนประเทศอื่นๆ เพราะเขื่อนในจีนกักเก็บน้ำและจำกัดการไหลของน้ำจนระดับน้ำในแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งอยู่ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ รวมถึงไทย ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวเปิดให้ร่วมลงชื่อตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 58,751 รายในวันที่ 7 พ.ค. และการรวบรวมรายชื่อจะสิ้นสุดในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ
petitions.whitehouse.gov เป็นเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เปิดโอกาสประชาชนสามารถเข้าไปร่วมลงชื่อร้องเรียนในประเด็นต่างๆ ได้ โดยมีข้อกำหนดว่า จะต้องมีผู้ร่วมลงชื่อขั้นต่ำ 100,000 รายชื่อภายใน 30 วันในประเด็นนั้นๆ และหลังจากนั้นจะรวบรวมรายชื่อส่งให้ทางทำเนียบขาวพิจารณาภายใน 60 วัน
ขณะที่แฮชแท็ก #MilkTeaAlliance และ #ชานมข้นกว่าเลือด เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งในไทย ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเคยร่วมมือกันถกเถียงในประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวโยงกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเริ่มต้นจากกระแสดราม่าแฮชแท็ก #nnevvy ที่เคยติดอันดับเทรนด์ยอดนิยมในไทยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
แฮชแท็กดังกล่าวเกิดจากความไม่ตั้งใจของ ‘ไบร์ท’ วชิรวิชญ์ ชีวอารี นักแสดงจากซีรีส์วายเรื่อง ‘เพราะเราคู่กัน: 2gether the Series’ และ ‘นิว วีรญา’ แฟนสาวของไบร์ท โดยไบร์ท รีทวิตรูปวิวอาคารในเมืองของช่างภาพคนหนึ่ง และบอกว่า “4 ภาพนี้ถ่ายจาก 4 ประเทศ ฮ่องกง-ญี่ปุ่น-สิงคโปร์-ไทย”
แฟนคลับชาวจีนของไบร์ทไม่พอใจที่ทวิตดังกล่าว "เรียกฮ่องกง (และไต้หวัน) เป็นประเทศ" ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตอบโต้ แต่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ทั้งชาวไทย ฮ่องกง และไต้หวัน ที่เห็นต่าง รวมตัวกันถกเถียงกับผู้ใช้ทวิตเตอร์จากจีน จนเกิดเป็นกระแสติดแฮชแท็กทั้งสองขึ้น สะท้อนความร่วมแรงร่วมใจระหว่างชาวทวิตเตอร์ไทย ฮ่องกง และไต้หวันที่นิยมเครื่องดื่ม 'ชานม' เหมือนกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
