วันที่ 27 กันยายน 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมาได้ประธานการประชุมมอบนโยบายเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน พร้อมผลักดันให้ สสส. ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยขอให้ สสส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการผลักดันโครงการต่างๆ ตามนโยบายที่กำหนด เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่คนไทยทุกคน

นายประเสริฐ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินการใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 

1. ยกระดับอายุขัยเฉลี่ยของประชาชน ซึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมาอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น การแพร่ระบาดของโรค , โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และอุบัติเหตุ รองนายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้ สสส. ดำเนินมาตรการที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างจริงจัง โดยจะต้องเน้นการป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชน

2. ส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันประชาชนชาวไทยเพียงร้อยละ 62 เท่านั้นที่ออกกำลังกายได้อย่างเพียงพอตามมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ซึ่งลดลงจากปี พ.ศ.2562 ที่เคยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 74.6 รองนายกรัฐมนตรีจึงขอให้ สสส. เร่งดำเนินการส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกายผ่านโครงการต่าง ๆ ทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

3. การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นภัยคุกคามต่อสังคม ซึ่งถือเป็นวิกฤติสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นจึงขอให้ สสส. ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างสรรค์โครงการและกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งในด้านการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมและการให้ความรู้แก่เยาวชน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบ

4. พัฒนาสุขภาพจิตของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ตึงตัว ปัญหายาเสพติด และภัยคุกคามทางออนไลน์ เช่น การหลอกลวงจากมิจฉาชีพออนไลน์ ดังนั้นจึงขอมอบหมายให้ สสส. ดำเนินโครงการเพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตให้กับประชาชนอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การป้องกัน การดูแล และการฟื้นฟู โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและการพัฒนาระบบสนับสนุนทางจิตใจในระดับท้องถิ่น

“การดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาสุขภาพของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ผมเชื่อว่าหากเราเดินหน้าทำงานตามแนวทางดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน” นายประเสริฐ กล่าว