ไม่พบผลการค้นหา
ผู้กำกับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ผุดโครงการสร้างภาพยนตร์ประชาธิปไตย ระดมทุนเงิน 100 สู่ทุนสร้าง 100 ล้าน ดึงนักแสดงหัวใจประชาธิปไตยร่วมแสดง หวังใช้กระบอกเสียงเล่าระบบการปกครองในประเทศไทย ใช้เป็นสื่อขับเคลื่อนประชาธิปไตยสู่คนวงกว้าง

จากจุดเริ่มต้นทวิตเตอร์หนึ่งที่ต้องการให้ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับคนดัง สร้างภาพยนตร์ของประชาชน ด้วยการดึงเอานักแสดงที่มีหัวใจประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น มารีญา พูลเลิศลาภ, เพชร กรุณพล และ แอมมี่ The Bottomblue สู่โครงการ‘นายทุน 100 บาทสร้างหนัง 100 ล้าน’ หานายทุนในฝัน เพื่อสร้างภาพยนตร์ของประชาชน

วอยซ์ออนไลน์ สัมภาษณ์พิเศษ ต้อม ยุทธเลิศ ถึงโครงการดังกล่าวและที่มาของเงินทุน

“นายทุนในฝัน คือ นายทุนที่ให้เงินเฉยๆ โดยที่ไม่ยุ่งอะไร ปกติเมื่อก่อนใครเอาหนังไปเสนอนายทุนเขาจะมีอำนาจต่อรองอะไรเยอะมาก เช่น จะเอาดาราคนนี้ จะเอานั่นเอานี่เต็มไปหมด บทจะต้องเปลี่ยนเป็นแบบนี้แบบนั้น

"ตอนนี้เรามองว่าถ้ามันเป็นหนังประชาธิปไตย ประเทศนี้มีคน 70 ล้านคน ผมจะทำหนังประชาธิปไตยให้คุณดูนะ มันต้องมีเกินล้านสิ ที่มีเงินร้อยหนึ่ง ที่พร้อมเปลี่ยนจากคนดูหนังเป็นนายทุนเลย คุณเป็นนายทุน คุณเป็นเจ้าของหนังแล้ว คุณได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วย"


แค่เริ่มต้น ก็เกิดดรามา

หลังเปิดโครงการผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ยังไม่ทันข้ามสัปดาห์ ก็เป็นประเด็นทางสังคม เมื่อ มารีญา พูลเลิศลาภ ออกมาแจงว่าเธอยังไม่ได้รับการติดต่อร่วมแสดงหนัง ขอให้พิจารณาก่อนสมทบทุน ซึ่ง ต้อม ยุทธเลิศ ได้แจงปมดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความเข้าใจผิดในการนำเสนอของแฟนเพจข่าวบางแห่ง

อย่างไรก็ตามเข้าใจความหวังดีของมารีญาที่กังวลเรื่องการระดมทุนในวงกว้าง

"พี่ว่าเป็นความหวังดีของน้องมารีญา เขากลัวว่า 1.เขาไม่รู้จักเรา 2.ไม่รู้ไอ้บัญชีนี้ของใคร การหลอกโอนเงินในโลกโซเชียลมันมี พอเขาไม่รู้จักเราเขาก็เป็นห่วง เพราะโอนเงินกันมาเยอะ"

ผู้กำกับคนดังระบุว่า ขั้นตอนของโปรเจกต์นี้เริ่มจากหานายทุน ก่อนเขียนบทและตามหานักแสดง และเปิดกล้องถ่ายทำต่อไป พร้อมยืนยันว่า หนังเรื่องนี้เป็นการลงทุนไม่ใช่การบริจาค ซึ่งมีระบบตรวจสอบที่ชัดเจนอย่างแน่นอน


ใช้ระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่เริ่มหานายทุน

ต้อม ยุทธเลิศ ระบุสาเหตุที่ต้องต้นทุน 100 ล้าน เพราะอยากให้คนที่มีหัวใจประชาธิปไตย ได้มีส่วนร่วมคนละ 100 บาท จำนวน 1 ล้านคน เพื่อร่วมกันเป็นเจ้าของหนัง มีอำนาจเท่าเทียมกัน ต่างจากระบอบเผด็จการที่ถูกตัดสินใจจากคนเพียงหนึ่งคน

"พี่กำลังเปรียบเทียบให้เห็นว่ามวลชนมันทรงพลังขนาดไหน ระบบประชาธิปไตยมันเหมาะสมขนาดไหน มันไม่ใช่ระบอบให้คนมีเงิน 100 ล้านคนเดียวมาชี้เป็นชี้ตายกับพี่ แต่ควรจะเป็นคนล้านมาชี้เป็นชี้ตายกับพี่มากกว่า" 

ต้อม ยุทธเลิศ


สร้างจากเหตุการณ์ 14 ตุลา

ภาพยนตร์ของประชาชนเรื่องนี้ ต้อม ยุทธเลิศ ได้วางโครงเรื่องและใช้เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นจุดเริ่มต้นก่อนเชื่อมโยงมาถึง 14 ตุลาในปัจจุบันและอนาคต โดยตั้งชื่อว่า ‘1410’ นำเสนอในรูปแบบไซไฟ ทริลเลอร์

‘1410’ เล่าเรื่องราวของหนุุ่มสาวในยุคนี้ท่่ี่ต้องการลุกขึ้นสู้กับอำนาจอยุติธรรมเผด็จการด้วยมือเปล่า ดำเนินเรื่องผ่าน 5 ตัวละครหลัก เดินทางข้ามเวลาจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศชาติ โดยสร้างจากเรื่องจริงบวกจินตนาการ

"เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นเหตุการณ์ที่เรารู้ว่าคนที่มีอำนาจ คนที่ควบคุมประเทศนี้อยู่ ต้องการให้เราลืมมัน หน้าประวัติศาสตร์ 14 ตุลา แทบจะหาไม่เจอ แต่วันนี้ยุคดิจิทัลเขาขุดมาหมด มันมีเรื่องแบบนี้เหรอ เมื่อก่อนปิดได้หมด หนังสือพิมพ์ห้ามลง หนังสือเรียนห้ามทุกอย่าง ห้ามได้หมด แต่วันนี้มันห้ามไม่ได้แล้ว"

"นี่คือการต่อสู้ของประชาธิปไตย เผด็จการพยายามจะทำให้เราลืมเหตุการณ์ที่เลวร้าย หนังเรื่องนี้เป็นกระบอกเสียงประชาธิปไตย ที่จะไปฟ้องคนทั่วโลกว่า เกิดอะไรขึ้นที่เมืองไทย นั่นคือสิ่งที่พี่ต้องการทำ"

ปัจจุบันมีการทาบทามนักเเสดงเเล้ว 2 คน คือ มายด์ ภัสราวลี ธนวกิจวิบูลย์ผล 1 ในสมาชิกกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตยและสมาชิกคณะประชาชนปลดแอก และ แอมมี่ The Bottom Blues ซึ่งทั้งสองมีคาแรกเตอร์ที่ตอบโจทย์

"ผ่านมา 7 วัน มีคนโอนเข้ามา 8 แสน เราเริ่มงานได้แล้ว จองนักแสดงก่อนเลย"

ต้อม ยุทธเลิศ

หวังสื่อภาพยนตร์ สร้างความเปลี่ยนแปลง

ต้อม ยุทธเลิศ เชื่อว่า ภาพยนตร์ทรงอิทธิพลที่สุดในกระบวนการเคลื่อนไหวทุกอย่าง และเป็นพลังในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลายประเทศได้ใช้ภาพยนตร์ในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม 

"เกาหลีเขาก็ใช้ ประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาใช้ภาพยนตร์ในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม ของเราที่ใส่ชุดยีนส์ เสื้อเชิ้ต ทีเชิ้ต อะไรแบบนี้เพราะอะไรเราดูหนัง นี่คืออิทธิพลที่เรารับมาโดยไม่รู้ตัวมันมาจากหนังทั้งนั้น ภาพยนตร์คือสื่อที่ดีที่สุดที่คุณอยากจะนำเสนออะไร เพราะว่ามันดูแล้วดูอีกได้ และเวลาดูมันฝังอยู่ในสมองเลย ไม่เลือนหายไปไหน มันจะเปลี่ยนความคิดคุณเปลี่ยนมุมมองคุณ"

"หนังเรื่องนี้จะเปลี่ยนใจให้พวกเผด็จการความรุนแรงเข้าใจว่า การให้อภัยคืออะไร ปัญหามาจากพวกเขา ไม่ใช่ประชาชน"

ต้อม ยุทธเลิศ ได้กำหนดระยะเวลาระดมทุนเบื้องต้นไว้ 2 ปี หากไม่พอจะมีการขอระดมทุนเพิ่มเติม โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นนายทุน ภาพยนตร์บันทึก "ประวัติศาสตร์" ด้วยการเป็นนายทุน 100 บาท ที่บัญชี FILM REPUBLIC ธ.กรุงศรีอยุธยา 2551244631 เท่านั้น โดยไม่ได้เปิดระดมทุนต่อสาธารณะ และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่าน ทวิตเตอร์@1410MOVIE

ทั้งนี้ผู้กำกับคนดัง เตรียมแถลงความคืบหน้าของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวให้นายทุนและผู้ที่สนใจได้รับทราบในวันที่ 14 ต.ค. 2563 ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา