ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับกรมควบคุมโรค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เร่งรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคหนองใน โรคซิฟิลิส อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนทุกคนมีความเสี่ยง
โดยเฉพาะผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ทำให้มีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าคนทั่วไป 5 - 9 เท่า การใช้ถุงยางอนามัย จะสามารถป้องกันได้เกือบ 100 เปอร์เซนต์ รวมทั้ง ให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เกิดความตระหนักในการป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ รวมทั้งส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรค รับผิดชอบต่อคู่และสังคม
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับเชื้อเอชไอวีกลุ่มนักเรียนในปี 2560 พบว่า วัยรุ่นมีแนวโน้มการมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นอายุเฉลี่ย 13-15 ปี และไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกประมาณร้อยละ 30 กรมควบคุมโรค ได้รณรงค์ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มเยาวชนและวัยทำงาน เพื่อการป้องกันเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การท้องไม่พร้อม เน้นในสถานศึกษาและชุมชน
โดยสนับสนุนถุงยางอนามัยให้หน่วยบริการสุขภาพทุกแห่ง ผ่านสำนักงานป้องกันควบคุมโรค 12 เขต สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด และโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง จัดทำแพ็คเกจถุงยางอนามัยให้มีความสะดวกใจในการพกพา ไม่เขินอาย แจกถุงยางอนามัยให้เยาวชนในช่วงการจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันแห่งความรัก วันเอดส์โลก รวมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งสื่อมวลชน และสื่อที่เยาวชนสนใจ เช่น Website, E-LEARNING, E-LIBRARY, E-BOOK สื่อสังคมออนไลน์
ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานในปี 2562 ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 4 มิ.ย. พบผู้ป่วยโรคซิฟิลิส 3,752 ราย โรคหนองใน 3,940 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี และกลุ่มอายุ 25 - 34 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง