วันที่ 23 ธ.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือราชินี - บางโพ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดท่าเรือ ว่า วันนี้ถือเป็นอีกวันเป็นวันแห่งความสุข ของรัฐบาลที่เราได้มีผลงานอันเป็นรูปธรรมออกมาตามที่ได้วางแผนไว้ตามยุทธศาสตร์ แม้ว่าจะใช้เวลานานพอสมควร หากเราย้อนมองดูว่าทำไมถึงยาวนานมากขอให้ดูว่ากรมเจ้าท่า ตั้งแต่ยังไม่มีท่ายังมีท่ารถ 163 ปี หลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้นในปีสองปีวันสองวันทุกอย่างต้องมีการศึกษาต่อยอด แม้ว่ายุทธศาสตร์ชาติจะอยู่ในระยะที่ 2 ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้น หากมองด้วยใจเป็นธรรมว่ามีอะไรเกิดขึ้น ทุกครั้งที่นั่งเรือมาที่นี่ก็เห็นอะไรแปลกหูแปลกตาไปเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยงามความงดงามของธรรมชาติ เห็นชาวบ้านมีความสุขมีรอยยิ้ม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งความคาดหวังของรัฐบาลที่จะต้องทำทุกอย่างให้ประชาชนมีความสุข
"วันนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่กันมายาวนานเกือบครบวาระ และจัดทำต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาดำเนินการต่อ นายกฯก็ฝากยุทธศาสตร์ชาติ ไว้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
นายกฯ ระบุอีกว่า วันนี้ระบบคมนาคมของไทยก้าวหน้าไปมากขึ้น หากมองย้อนไปถึงอดีตปัจจุบันและอนาคตหากมองไปสู่อนาคต แต่ต้องมองย้อนกลับมาว่า สิ่งที่คาดหวังในวันนี้อยากมีโน่น มีนี่ ว่าเราจะทำอย่างไรหากคิดแต่ตรงนี้คิดไปข้างหน้าอย่างเดียว โดยที่ไม่เอาตัวไปอยู่ในจุดปลายทาง แล้วมองย้อนกลับมาก็จะหาวิธีการไม่เจอ ติดขัดหลายอย่างด้วยกัน ทั้งข้อบังคับกฎหมายความผิดความเห็นชอบประชาชน อะไรเยอะแยะไปหมด แต่เราก็ทิ้งไม่ได้ เพราะเป็นกติกาสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดความยั่งยืนเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันการเชื่อมโยงการคมนาคมอย่างต่อเนื่องให้มีความทันสมัยตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่จะต้องสะดวกสบายปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นการกระจายโอกาสไปสู่พื้นที่ต่างๆภาคส่วนต่างๆเพื่อให้เกิดการเข้าถึง กษัตริย์ชาติคือต้องให้เข้าถึงบริการภาครัฐให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจริมน้ำเจ้าพระยาพัฒนาสู่เขตการค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ
"เราใกล้เคียงค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เร็วบ้างช้าบ้างก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่ ทำไมเราถึงจะไม่อยากให้เกิดขึ้นเร็ว ผมเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วแต่ก็จำเป็นต้องรักษากติการักษาระบบต่างๆเพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อไปในอนาคต"
วันนี้ประเทศไทยเดินมาไกลแล้วหลายปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเราจะต้องเดินต่อ ไม่มีวันสิ้นสุดไม่มีไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป หากทำต่อก็สำเร็จแน่นอนและเดินไปข้างหน้า ก็จะเร็วขึ้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำที่อยู่ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ในการที่จะทำให้เกิดโครงการ เนื่องจากต้องการความเห็นชอบของประชาชน ทั้งสิ้นหากไม่ทำอะไรเลยอยู่เฉยๆทุกอย่างก็จะถอยหลังไปเรื่อยๆ วันนี้อยากจะบอกทุกคนว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรือได้มาเร็วๆ
เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องเรียนรู้ว่าเราควรจะทำควรจะช่วยประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร หากท่านไม่รู้ความเป็นไปเป็นมาประวัติศาสตร์ของชาติก็ไม่รู้ว่าจะรักประเทศไทยได้อย่างไร รักแม่น้ำสายนี้ ได้อย่างไร นี่คือสายน้ำแห่งชีวิต หากสามารถสอนนำเด็กๆ ให้รู้และเข้าใจนี่คือประเด็นสำคัญของประเทศไทยที่เราสามารถสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศขึ้นมาให้ได้ เด็กนักเรียนทุกคนเป็นผ้าขาวสะอาด เป็นเส้นไหมสะอาด ที่ยังไม่ย้อมสี เพราะฉะนั้นหากย้อมสีที่ดีที่ถูก สีที่สวยงามก็จะมีมูลค่าก็จะได้คนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพต่อไป
"ผมฝากไว้ด้วยก็แล้วกัน คนรุ่นใหม่เด็กรุ่นใหม่ต้องการอะไรใหม่ๆ เกิดมาเขาเจอแล้วรถไฟฟ้า ก็มีแล้วอะไรก็มีแล้ว แต่ลืมมองไปว่าตอนเด็กๆไม่มีอะไรตรงนี้พอโตมา เห็นสิ่งเหล่านี้ต้องมีอย่างนี้ แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเลยต้องย้อนกลับไป ฝากคุณครูอะไรต่างๆไว้ด้วยก็แล้วกัน"
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า มีแต่สิ่งที่เราทำให้ประเทศชาติไทยของเรามั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนในอนาคต ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้นไม่มีอะไรที่ทำได้ท่ามกลางความขัดแย้งความไม่มีเสถียรภาพ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด
ย้ำร่วมงาน รทสช.แค่ประกาศเจตนารมณ์ ยังเป็นพรรคร่วม รบ.
จากน้ัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการเป็นประธานเปิดท่าเรือราชินี - บางโพ ว่า การที่ตนให้สัมภาษณ์เมื่อเช้านั้น คือการตัดสินใจ แต่เราจะไปก้าวอะไรเขายังไม่ได้ใช่หรือเปล่า เป็นกฎหมาย เป็นอะไรต่างๆ เป็นเรื่องของพรรคที่ต้องดำเนินการต่อ อย่าเพิ่งหาว่าเราจะไปอะไรกับเขาเลย วันนี้เรายังเป็นรัฐบาล ยังเป็นพรรคร่วม ต้องเข้าใจตรงนี้นะ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงใช่หรือไม่ เพราะประชาชนอยากเห็นนายกฯลงหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมาถามอะไรเรื่องอนาคต
เมื่อถามถึงกรณีที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีนายกฯ ประกาศเปิดหน้าทางการเมือง โดยเป็นห่วงสถานะของนายกฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไปไหนไม่ได้ ตนแค่ประกาศเจตนารมณ์ของตนเท่านั้นเอง ก็ยังทำหน้าที่ของตนตรงนี้ เป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ก็เป็นเรื่องของพรรคและกรรมการบริหารพรรคก็ต้องไปว่ากันอีกทีหนึ่ง
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธการตอบคำถามถึงความชัดเจนทางการเมือง ว่าจะเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะอยู่ช่วยงานนายกฯต่อหรือไม่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศท่าทีที่ชัดเจนออกมาแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา