อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐหรือ พปชร. ระบุถึงเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อเหลืองปกป้องสถาบันล้อมรถที่คาดว่าเป็น ธนาธร จึงรุ่งเรือง แกนนำกลุ่มก้าวหน้าระหว่างหาเสียงช่วยผู้สมัคร อบจ. ที่จ. นครศรีธรรมราช จะส่งผลทำให้การเมืองท้องถิ่นรุนแรงขึ้นหรือไม่ มองว่าเป็นเรื่องของท้องถิ่น ซึ่งมีการบริหารจัดการของตัวเอง ซึ่งมีหลายฝ่ายอยู่ในสังคมเดียวกันและไม่ได้มีความคิดเห็นเหมือนกันทุกคน
โดยความแตกต่างความคิดถือเป็นเรื่องธรรมดาและสามารถแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย และไม่อยากให้เกิดการลุกลามบานปลายที่ต้องบริหารจัดการกันเองไม่เหมือนการเมืองใหญ่ที่ต้องมีการแก้ปัญหาในรัฐสภา อนุชา ย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่การลุกลามบานปลายของการเมืองท้องถิ่น ตนมองว่าเป็นประเด็นการเมืองใหญ่ที่แต่ละฝั่งมีสุดโต่งซึ่งต้องหาวิธีประนีประนอม ที่จะทำให้เกิดข้อยุติในสังคมไทย
อนุชา ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ไม่มีนโยบายและความคิดสร้างความแตกแยกในสังคม และจะไม่มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุย โดยส่วนตัวไม่คิดว่าปัญหาจะรุนแรงขนาดนี้ และไม่มีผู้นำไปแบ่งแยกและทำให้ความคิดนั้นแตกต่างและลุกลามไปทั่วประเทศแน่นอน ฝากถึงทุกฝ่าย หากยังเล็งเห็นถึงความผาสุขของประชาชน ต้องถอยกันคนละก้าวเพื่อให้สังคมและประเทศสงบและสันติและพร้อมที่จะเดินหน้าประเทศที่อยากเห็นประชาธิปไตยเปลี่ยนแปลง
อนุชา ย้ำว่าการขอให้รัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไข ไม่ใช่การดึงเวลา 1 เดือน จะดึงไปทำไมเพราะไม่ใช่ประเด็น ไว้ไม่แก้จริงๆแล้วค่อยมาว่ากัน ตนเป็นนักการเมืองจึงไม่อยากเห็นใครดูถูกนักการเมือง เพราะทุกครั้งรู้สึกสะท้อนใจและอยากเห็นการเมืองไทยดีขึ้น และการทำหน้าที่ ส.ส. ต้องเห็นประโยชน์ของประชาชนจริงๆ และตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ไม่เคยลงถนนแม้แต่ครั้งเดียวพร้อมย้ำจุดยืน จะไม่มีวันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด เพราะตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยแบบประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์อันเป็นประมุขที่ทำให้อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
เพื่อไทยบี้กกต.สอบปมล้อมรถ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมปิดล้อมผู้รับสมัครเลือกตั้ง อบจ.ว่าไม่สบายใจและอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างเช่นเหตุการณ์ที่นครศรีธรรมราช ประชาชนคนทั่วไป ไม่มีสิทธิที่จะไปล้อมขอตรวจค้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิเพราะแม้ตำรวจจะดำเนินการก็ต้องมีหมายค้นก่อน และเห็นว่าเรื่องนี้ กกต.ในฐานะต้องกำกับการเลือกตั้งให้เรียบร้อยต้องดูแล เพราะหากเกิดปรากฏการณ์ไปทั่วประเทศ กกต.จะรับมือแก้ปัญหาอย่างไร และชี้ว่าเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายต้องไปร้องสิทธิ์เพราะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตไปไหนมาไหนลำบากขึ้น
ส่วนการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีรายงานถึงปัญหาในลักษณะนี้ แต่ที่ได้รับมรายงานมีเรื่องการใช้อำนาจรัฐใช้กลไกรัฐในการหาเสียงช่วยสมัครบางกลุ่ม และมีการใช้เงินซื้อเสียง โดยมีหลายจังหวัดรายงานมา ซึ่งพรรคจับตาดูอยู่ หากพบหลักฐานกรณีที่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมาย ก็เตรียมยื่นร้องต่อ กกต.ดำเนินการไต่สวนเอาผิดทันที่
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่าท่ามกลางปัญหาความเห็นต่างทางการเมือง ตำรวจก็ต้องคาดการณ์ว่าจะมีประเด็นใดที่นำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ ซึ่งตำรวจเองก็ควรมีแผนและมาตรการป้องกัน ทั้งนี้เชื่อว่าจากเหตุการณ์ความเห็นต่างทางการเมืองจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าจัดเลือกตั้งและวันลงคะแนนเลือกตั้ง อบจ. ซึ่งอาจเกิดในช่วงระยะสั้นเท่านั้น หากทุกฝ่ายช่วยกันวิงวอนและประคับประคองการจัดการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ไม่ให้เกิดความรุนแรง
อ่านเพิ่มเติม