26 ก.พ.2567 ทนายกฤษฏางค์ นุตจรัส เปิดเผยว่า หลังจากวานนี้ (25 ก.พ.) สมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ได้เดินทางมายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวลูกสาว และ ‘แฟรงค์’ ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ซึ่งถูกฝากขังระว่างชั้นสอบสวนในความผิดตามมาตรา 116 จากกรณีการบีบแตรใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดท้ายขบวนเสด็จฯ แต่ศาลก็ยังมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเหมือนเดิม 

ทนายความกล่าวต่อ สถานการณ์นี้เป็นไปด้วยความกังวล เนื่องจากตะวันถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์เห็นว่าอาการของตะวันนั้นเกินศักยภาพของโรงพยบาลที่จะดูแลได้ และในส่วนของแฟรงค์ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ได้ทำเรื่องขอส่งตัวไปยังโรงพยาบาลภายนอกแล้วแต่ยังไม่มีโรงพยาบาลใดตอบรับและยังไม่ทราบเหตุผล ซึ่งจะต้องสอบถามไปยัง ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกรณีที่ตนและพ่อของตะวันมาศาลอีกครั้ง เนื่องจากมีการพูดคุยกันว่า หากมีการยื่นขอประกันตัวใหม่ หรือยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาล ไม่ว่าจะทางไหนผลที่ออกมาก็คงจะเป็นเหมือนเดิมคือไม่ได้รับการปล่อยตัว จึงเห็นว่า สิ่งที่พอจะทำได้คือการเดินทางมาแถลงให้ศาลอาญาได้ทราบถึงความจำเป็นที่ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสอง

"กรณีของน้องสองคนนี้ไม่ใช่กรณีที่เป็นการขังไว้ระหว่างพิจารณาคดี แต่เป็นเพียงการขังไว้ระหว่างการสอบสวนของ สน. ดินแดง ฟ้องก็ยังไม่ได้ฟ้องและไม่รู้ว่าอัยการจะยื่นฟ้องหรือไม่ รวมทั้งได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นไต่สวนการฝากขังได้ความว่า สาเหตุที่ต้องฝากขังเป็นเพราะยังเหลือการสอบสวนพยานอีก 5 ปาก มีทั้งตำรวจผู้จับกุมและชาวบ้านทั่วไปซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นใครเพราะยังไม่ระบุชื่อ และยังรอผลตรวจลายนิ้วมือของผู้ต้องหาเท่านั้นเอง ขณะที่ผู้ต้องหาเป็นเด็กซึ่งไม่มีอิทธิพลใดที่จะเปลี่ยนแปลง หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ และเมื่อข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้เด็กไม่ได้มีพฤติการณ์ใดที่จะหลบหนีศาลก็ควรที่จะให้ประกันตัว แต่ศาลก็ยังคงมีคำตอบเหมือนเดิม"

สำหรับหนังสือที่ยื่นต่ออธิบดีศาลอาญามีใจความว่า 

“ตามที่ศาลอาญามีคำสั่ง ไม่ให้ปล่อยชั่วคราวนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ บุตรสาวของข้าพเจ้า และนายณัฐชนนท์ ไชยมหาบุตร นั้น ข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะโต้แย้งคัดค้านใดๆ แต่ขอให้ศาลอาญาดูแลรับผิดชอบในชีวิตของผู้ต้องหาทั้ง 2 ที่ท่านมีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการสอบสวน

เขาทั้งสองเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาอัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องข้อหาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงถือว่าพวกเขาทั้งสองเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย หากเขาทั้งสองถึงแก่ความตายไปแล้วในขณะที่ฝากขังระหว่างสอบสวน โดยคำสั่งของศาลอาญา ก็ขอท่านได้โปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ดวงวิญญาณของพวกเขาทั้งสองด้วยว่า ใครจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของพวกเขาทั้ง 2 จากการที่ท่านมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวชั่วคราว 

ขอท่านได้โปรดพิจารณา และหาทางออกด้วย ควรมิควร แล้วแต่จะโปรด”

ด้านสมหมายระบุว่า ตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วรู้สึกไม่มีหนทางใด ตอนนี้ต้องการแค่ขอใช้สิทธิประกันตัวตามกฎหมายเพื่อที่จะเอาเด็กสองคนออกมารักษา และยืนยันว่าเด็กมีที่อยู่เป็นหลักแห่งแน่นอน ไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานใดๆ ได้ และอาการของทั้งคู่ไม่ได้แย่แค่ภายนอก ภายในตอนนี้ก็แย่ไปหมดแล้ว 

“หากคุณกลัวว่าน้องจะหนี คุณเอาตำรวจไปตามเลย คุณทำอะไรก็ได้ที่ไม่ให้น้องหนี และถ้าน้องจะหนีเขาหนีไปนานแล้วไม่รอถึงตอนนี้หรอก” พ่อตะวันกล่าว