ไม่พบผลการค้นหา
'ดร.นลินี-นพ.สุรพงษ์' ผนึกกำลัง Team Thailand ในอินเดีย-ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เดินหน้า Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 ดึง 500,000 นักท่องเที่ยวอินเดีย และ Festival Goers จากภูมิภาคต่าง ๆ กระตุ้นใช้จ่ายราว 18,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2568 โดยมี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมด้วย ทีมไทยแลนด์ประจำอินเดีย ได้แก่ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี, กงสุลใหญ่ ณ มุมไบ เจนไน และกัลกัตตา, ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนิวเดลี และมุมไบ รวมถึงผู้แทนภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านท่องเที่ยว อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล

การประชุมมีเป้าหมายผลักดันการจัด “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” ระหว่างวันที่ 16–20 ตุลาคม 2568 โดยตั้งเป้าดึงดูด นักท่องเที่ยวอินเดีย 500,000 คน ในช่วงเทศกาล Diwali พร้อมกระตุ้นการใช้จ่าย ราว 18,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็น Festival Destination แห่งเอเชีย และใช้เทศกาล Diwali ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของอินเดีย เป็นเครื่องมือสร้างกระแสและความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ

ที่ประชุมได้ร่วมกันสรุปชื่ออย่างเป็นทางการของงานในปีนี้ คือ “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” และเห็นชอบจัดกิจกรรมตลอดทั้งเดือนตุลาคม โดยจะเน้นกิจกรรมหลักระหว่างวันที่ 16–20 ตุลาคม 2568 พร้อมผลักดันให้ ย่าน Little India พาหุรัต และคลองโอ่งอ่าง เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมสำคัญ ร่วมกับย่านสำคัญอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงในจังหวัดต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา) สุราษฎ์ธานี และภูเก็ต เพื่อสร้างสีสันเฉลิมฉลองต้อนรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลนี้

ดร.นลินี เน้นย้ำบทบาท ทีมไทยแลนด์ในอินเดีย ซึ่งประกอบด้วยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี, กงสุลใหญ่ ณ มุมไบ เจนไน และกัลกัตตา และสำนักงาน ททท. ในอินเดีย เป็นกลไกหลักในการประชาสัมพันธ์และสร้างกระแส Grand Diwali Festival ในตลาดต้นทาง พร้อมทั้งได้หารือร่วมกับภาคการบินไทยและอินเดีย โดยมีแผน พิจารณาเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ และเพิ่มเที่ยวบินเชื่อมโยง เมืองท่องเที่ยวใหม่ของไทย เช่น เชียงใหม่และกระบี่ เพื่อรองรับดีมานด์ที่เติบโตขึ้นในช่วงเทศกาลนี้

ที่ประชุมยังเห็นชอบการผนึกกำลัง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และภาคเอกชนไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดเดือนตุลาคม อาทิ Welcome Gift, Dining Privilege, Diwali Mega Sale การจัด India Corner ในสนามบิน การประชาสัมพันธ์อาหารอินเดียในประเทศไทย (Indian Food Festival) การแสดงวัฒนธรรมตลอดเดือน, และการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าแบบเข้มข้น ทั้งผ่าน LED Screen และ Online Ads ซึ่งจะสร้างบรรยากาศเฉลิมฉลองและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอินเดียและผู้มาเยือน

นอกจากนี้ ยังมีแผนเชิญชวนนักท่องเที่ยวจาก ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และตลาดระยะใกล้ ที่มีความสนใจเข้าร่วมสัมผัสบรรยากาศเทศกาล Grand Diwali Festival ณ ประเทศไทย รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น ๆ ที่นิยมเดินทางตามเทศกาล (Festival Goers) โดยไทยจะใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากหลากหลายประเทศและภูมิภาค

ด้านความร่วมมือกับอินเดีย จะมีการดำเนินโครงการ Cultural Exchange Programme (CEP) Agreement ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมไทยและอินเดีย และร่วมมือกับ Indian Council for Cultural Relations (ICCR) ส่งคณะศิลปินอินเดียเข้าร่วมสร้างสีสันภายในงาน

การประชุมยังเห็นชอบแนวทาง ขยายตลาดเชิงลึก (Market Expansion) โดยคัดเลือก เชียงใหม่ และกระบี่ เป็นจังหวัดนำร่องเพิ่มเติมจากกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งมีศักยภาพสูงทั้งด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียที่มีพฤติกรรมการเดินทางหลากหลายและกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ดร.นลินี กล่าวทิ้งท้ายว่า เทศกาล “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” จะเป็นเวทีสำคัญแสดงพลังความร่วมมือไทย–อินเดีย ผ่าน Team Thailand, ภาคเอกชนไทย และเครือข่ายพันธมิตรในอินเดีย พร้อมตอกย้ำบทบาทไทยในฐานะ Festival Destination ที่เชื่อมโยงเอเชียใต้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย Soft Power อย่างมีพลังและเป็นรูปธรรม โดยจะเป็น เทศกาล Diwali ที่ใหญ่ที่สุดภายนอกประเทศอินเดีย และแตกต่างจาก Diwali ที่จัดในประเทศอื่น ด้วยการนำเสนอเสน่ห์และศักยภาพของ สินค้าไทย สถานที่ท่องเที่ยวไทย และ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมด้านอาหาร