ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีประชุม ครม.-คสช. หารือเตรียมความพร้อมดูประชาชน ในงานพระราชพิธีบรมราชภิเษก ขณะการประชุม ครม. กระทรวงคลังเสนอมาตรการพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 และ 3 วงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ขณะกระทรวงคมนาคมรายงานปมโฮปเวลล์เตรียมแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการตามคำพิพากษา

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานประชุมร่วม ครม.- คสช.ก่อนที่จะประชุม ครม. โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆ ว่าการประชุมร่วม ครม.- คสช.วันนี้จะมีการหารือเตรียมความพร้อมเรื่องงานพระราชพิธีบรมราชภิเษก

ขณะที่พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการสรุปผลงาน 5 ปี คสช. จะมีการแถลงให้ประชาชนรับทราบก่อนมีรัฐบาลใหม่หรือไม่ยังไม่ทราบ ต้องรอที่ประชุม คสช.สรุป แต่มีโอกาสที่จะเผยแพร่ 

ส่วนวาระการประชุม ครม.ที่น่าสนใจวันนี้ (30 เม.ย.) กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอมาตรการพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 และ 3 วงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท มีผลในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี และเพิ่มเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้กับคน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผู้ปกครองที่มีลูกหลานกำลังเรียนจะได้รับเงินคนละ 500 บาท ต่อบุตร 1 คน มีจำนวนประมาณ 6 ล้านคน เพื่อให้นำเงินไปซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน และชุดกีฬา ซึ่งสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามหลักเกณฑ์อีกด้วย และกลุ่มเกษตรกรที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้รับเงินคนละ 1,000 บาทให้ครั้งเดียว จำนวนประมาณ 4 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนพิการที่ขึ้นทะเบียนไว้และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 100,000 คน จะได้รับเงินเพิ่มเติมเดือนละ 200-300 บาท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน 2562  

ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ 5 ล้านคน จะได้รับเงินเพื่อนำไปซื้อของผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐคนละ 500 บาท ในเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน 2562  

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเสนอให้ลดหย่อนภาษีแก่ผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกที่มีราคาไม่เกิน 3-5 ล้านบาท ไปจนถึงสิ้นปี 2562 วงเงินลดหย่อน 1 แสนบาท พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการภาษีส่งเสริมร้านค้า ที่ลงทุนติดตั้งเครื่องรับอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC ระบบขายหน้าร้าน และ ระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถนำรายจ่ายมาหักภาษีได้ 1.5-2 เท่า

ส่วนกระทรวงคมนาคม จะรายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เพื่อหาแนวทางปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสุงสุด กรณีจ่ายค่าชดเชย จากการบอกเลิกสัญญาโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่าใช้จ่ายอื่น โดยเตรียมแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อดำเนินการตามคำพิพากษา ทั้งการคำนวณรายละเอียดเรื่องมูลค่าโครงการ อัตราดอกเบี้ย รายละเอียดการชดใช้ และ แนวทางการเบิกจ่าย

กระทรวงคมนาคม เสนอการจัดเก็บค่าธรรมเนียมค่าผ่านทางสำหรับทางหลวงพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง (บางครุ)-ต่างระดับบางขุนเทียน หลังเลื่อนระยะเวลาการจัดเก็บค่าผ่านทางมา 4 เดือน แบ่งเป็น รถยนต์ 4 ล้อ 15 บาท รถบรรทุก 6 ล้อ 25 บาท และ รถบรรทุกที่มี 6 ล้อขึ้นไป 35 บาท