พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคเพื่อไทย หมายเลข 5 พื้นที่ อำเภอบางระกำ อำเภอบางกระทุ่มและอำเภอเมืองบางพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมพูดคุยถึงนโยบาย ของพรรคเพื่อไทย พบว่าประชาชนในพื้นที่ ให้ความสนใจ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนโยบายด้านการเกษตร เพราะเกษตรกรเชื่อว่านโยบาย ของพรรคเพื่อไทยสามารถจับต้องได้
นอกจากนี้ที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่เห็นนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่าไม่มีความจริงใจที่จะช่วยพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริง ทั้งนี้มาจากการที่ปล่อยให้ต้นทุนการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำลงจาก 12,000 บาทต่อตัน ลดลงเหลือ เพียง 6,000 บาทต่อตัน พี่น้องชาวบางระกำ บางกระทุ่ม เดือดร้อนมาก เพราะขายข้าวเปลือกไม่ได้ราคา
พิมพ์พิชชา กล่าวด้วยว่า ภายหลังการยุบสภาของพลเอกประยุทธ์ ส่งผลให้พี่น้องในพื้นที่ตื่นตัวกันมาก เพราะได้เวลาเปลี่ยนผู้บริหารประเทศแล้ว หลังจากที่ต้องทนทุกข์มาตลอด 8 ปี จากการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาล ส่งผลให้ประเทศไทยไร้อนาคต ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลายครอบครัวสิ้นเนื้อประดาตัว ไร้เงินไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งหมดนี้คือผลพวง จากการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพของพลเอกประยุทธ์ และคณะ
“จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนในพื้นที่บางระกำและบางกระทุ่ม อยากให้พรรคเพื่อไทยมาสานต่อนโยบายบางระกำโมเดลที่สมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเริ่มไว้ มั่นใจว่าหากโครงการ ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้เพิ่มเงินในกระเป๋าเกษตรได้ ถึงเวลานี้ มั่นใจว่าคนไทยเลือกแล้วว่าจะให้พรรคไหนเป็นรัฐบาล โดยเลือกจากนโยบายที่เห็นชัดว่าทำได้จริงไม่ใช่นโยบายเลื่อนลอยเหมือน 4 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย เคยสร้างผลงานให้เห็น ว่านโยบาย พรรคการเมืองที่ดีเป็นเช่นไร ดังนั้นมั่นใจว่าที่ประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก ตัดสินใจ เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยยกจังหวัดอย่างแน่นอน” พิมพ์พิชชา กล่าว