ไม่พบผลการค้นหา
‘ทนายษิทรา’ พา 14ผู้เสียหาย แจ้งความ ‘ปริญญ์’ ชี้ผู้ต้องหามีรสนิยมทางเพศบังคับขู่เข็ญ เตือนหากไปยุ่ง-ข่มขู่พยานจะทำเรื่องขอถอนประกันตัว เชื่อผู้ก่อเหตุมีอาการปกติดีไม่เคยมีประวัติรักษาอาการทางจิต ยืนยันนำผู้เสียหายมาแจ้งความไม่ได้ดิสเครดิตการเมือง

วันที่ 18 เม.ย. 2565 ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือ ทนายตั้ม เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี โดยนำผู้เสียหายในคลิปเสียงซึ่งมีการออกมาเปิดเผยวันเดียวกันนี้ และหลักฐานประกอบที่อ้างว่า ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กระทำอนาจารโดยบังคับขู่เข็ญและคุกคามทางเพศหญิงสาวกว่า 10 ราย

โดย ษิทรา เปิดเผยว่า หลักฐานที่นำมามอบให้ตำรวจมั่นใจว่าจะดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาได้อย่างแน่นอน ตนขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองที่กำลังมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และได้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6- 10 ราย ซึ่งเวลาในการเดินทางมาแจ้งความของผู้เสียหายแต่ละราย จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เสียหาย

สำหรับ รายละเอียดผู้เสียหาย มีดังนี้ 

รายที่ 1 ผู้เสียหาย ที่เป็นผู้เปิดเรื่อง ซึ่งเป็นหญิงสาววัย18 ปีถูกกระทำอนาจาร ที่ร้านอาหาร และได้เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินีเมื่อ 12 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา

รายที่ 2 หญิงสาว ชาวราชบุรี อดีตทีมงานพรรคการเมือง เหตุเกิดที่เพรชบุรี ที่ งานเลี้ยงพรรค ถูกกระทำอนาจาร และเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินีเมื่อ 14 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา 

รายที่ 3 หทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย หรือ แอนนาเกิดเหตุเมื่อ เดือน มี.ค. 2564 ถูกกระทำข่มขืน โดยถูกชักชวนไปออฟฟิศ และเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินีเมื่อ 14 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา 

รายที่ 4 ออม ถูกกระทำอนาจาร เมื่อ ก.พ. 2565 เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี 15 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา 

รายที่ 5 หญิงสาว ภาคเหนือ ถูกกระทำอนาจาร ซึ่งผู้เสียหายและผู้ต้องหารู้จักกันเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะไปเป็น วิทยากรเกี่ยวกับการลงทุน และได้เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี 16 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา

ษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี -3155-4AF0-932A-98146B93CB94.jpegษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี AFE0B0AFE30.jpeg

รายที่ 6 หญิง 26 ปีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว เหตุเกิดปี 2563 ถูกกระทำการข่มขืน นัดคุยธุรกิจที่ร้านอาหาร เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี 18 เม.ย. 2565 ซึ่งผู้เสียหายไม่ประสงค์แจ้งความแต่พนักงานสอบสวนจะทำการร้องทุกข์ให้เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้

รายที่ 7 หญิงสาวรายหนึ่ง ผู้เสียหายถูกลวนลาม ขณะในวัยฝึกงาน ตอนอายุ 17 ปี เมื่อปี 2562 โดยผู้เสียหายถูก พูดจาแทะโลม ลูบขาบนรถ ขณะนั้นนักการเมืองขับรถมือเดียวไปส่งบีทีเอส ใช้อีกมือจับของสงวนทั้งบนล่าง เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี 18 เม.ย. 2565

รายที่ 8 ผู้เสียหายถูกลวนลามเหมือนกับผู้เสียหายรายอื่นแต่ไม่ประสงค์ให้บันถึกภาพ เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี 18 เม.ย. 2565 

รายที่ 9 หญิงสาว จ.นนทบุรี ถูกลวนลาม ด้วยการใช้นิ้วสอดใส่ของสงวนด้านล่าง เคยเข้าแจ้งความ ที่ สน.ลุมพินี ไว้เมื่อปี 2563 แต่คดีความไม่คืบหน้า จึงเดินทางมาแจ้งความอีกครั้ง ในวันที่18 เม.ย. 2565 ที่ สน.ลุมพินี 

ษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี 9853A6BADD.jpeg

รายที่ 10 หญิงสาว รายนี้ ถูกวางยาและ ข่มขืน 

รายที่ 11 หญิงสาว ข่มขืนที่คอนโดจนเป็นซึมเศร้า 

รายที่ 12 หญิงสาว โดนลวนลาม ปี 2560 ที่อังกฤษ โดยการให้ดื่มไวน์จนเมา แต่ผู้เสียหาย ยังรู้สึกตัว จึงหนีไปแอบในห้องน้ำ 

รายที่ 13 หญิงอายุ 43 ปี โดยเหตุเกิด ปี พ.ศ.2560 ผู้เสียหายทำงานบริษัทต่างชาติ รู้จักกับ ผู้ต้องหา เพราะ ทำงานตึกเดียวกัน มีการแลกนามบัตร และ มีการโทรคุยกับผู้ต้องหา และนัดกัน ทานกาแฟ ตึก mthai ขณะนั้น ผู้ต้องหา มาประชิดตัว จับขา โอบเอว ผู้เสียหายจึงขอตัวกลับ ผ่านมา 4-5 วัน ผู้ต้องหา พยายามโทรมาแล้วชวนขึ้นออฟฟิศ ปรากฎว่าขี้นไปไม่เจอใคร จากนั้นผู้ต้องหาพยายาม จูบปาก แต่สุดท้ายได้หนีออกมาได้ 

รายที่ 14 อายุ 31 เกิดเหตุปี 2558 เหตุเกิดเพราะ ไปสัมภาษณ์งาน ผู้ต้องหา ขอคอนแทค แล้วนัดกันไปนั่งดื่มกันร้าน ที่ตึกแห่งหนึ่ง โดยพยายามลวนลาม ขณะดื่ม แต่ตนปัดป้อง หลังจากวันนั้น ผู้ต้องหา ก็มีการพยายามคุยเรื่องงานตลอด จนวันที่ 20 ก.ค. 2558 ผู้ต้องหา ให้แวะมาหาที่ คอนโด185 ราชดำริ เลยมาสถานที่ดังกล่าว ตอนขึ้นไปมีพนักงานขายผู้หญิงขึ้นไปด้วย เลยไม่ได้กังวล แต่พอหมดหน้าที่พนักงานขาย พนักงานขายออกจากห้องคอนโด ผู้ต้องหา ก็ทำการข่มขืนตน

ส่วนผู้ต้องหารายที่ 15 ทาง ษิทรา พยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ 

ษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี AFE0B0AFE30.jpegษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี D71DBEC0A7.jpeg

ทั้งนี้ หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เปิดใจว่า ตนโดน ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองคนดังกล่าวตามจีบอยู่ 6 ปี แต่ตนปฎิเสธไม่เล่นด้วย จนกระทั่ง มีอยู่วันหนึ่ง ปริญญ์ นัดตน ขึ้นไปคุยงานที่คอนโด แต่ตนพยายามปฎิเสธ แต่ไม่เป็นผล สุดท้าย ปริญญ์พาตนขึ้นคอนโดสำเร็จ จากนั้น ปริญญ์ พยายามข่มขืนตน ซึ่งตนก็พยายามบ่ายเบี่ยง ทั้งอ้างเหตุผลว่า เป็นประจำเดือน แต่ก็สู้แรงของ ปริญญ์ ไม่ได้ สุดท้ายตนก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และ จากเหตุการณ์นั้นจนถึงวันนี้ ส่งผลให้ตนเป็นโรคซึมเศร้า 

ษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี 9853A6BADD.jpegษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี  7-7282D781CF66.jpegษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี -E2AC57B3E4D8.jpeg

ษิทรา กล่าวว่า วันนี้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ แต่บางรายไม่สะดวกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่พามาแจ้งความล่าสุดเป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ที่ไม่เคยปฏิเสธว่าได้ก่อเหตุดังกล่าว ผู้เสียหายรายนี้ เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 แต่คาดว่ายังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้ ทั้งนี้ในตอนแรกเหยื่อไม่ยอม จะไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยข่มขู่ว่าตัวเองเป็นลูกคนใหญ่คนโต อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2-3 ครั้ง ก็ได้รับไว้ ซึ่งวันนี้เบื้องต้นจะพามาในฐานะพยานก่อนและจะให้พนักงานสอบสวนพิจารณา หากสามารถแจ้งข้อหาได้ก็จะเป็นผู้เสียหายด้วยอีก 1 คน

โดยผู้เสียหายรายนี้บอกกับตัวเอง ว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุคือมีการหลอกลวงไปที่ออฟฟิศที่ตัวเองเคยโพสต์ภาพทาง Facebook และยังเป็นห้องเดียวกับเหยื่ออีกหลายรายก่อนหน้านี้ รวมถึงยังมีการนัดไปที่ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่ง คล้ายกับผู้เสียหายรายล่าสุดอายุ 18 ปีด้วย

ษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี AEBCEC26FD16.jpegษิทรา ปริญญ์ สน ลุมพินี 0FDEE0F8DB2.jpeg

ษิทรา ยืนยันว่า ตัวเองไม่กลัวการฟ้องกลับ เพราะเหยื่อทุกคนมั่นใจให้ตัวเองมาดำเนินคดี ถ้ากลัวคนอื่น ผู้เสียหายก็เสียขวัญ แต่ยอมรับว่าสับสนในพฤติกรรมที่ผู้เสียหายถูกผู้ก่อเหตุกระทำเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก ตอนนี้กว่า 20 คน ที่ติดต่อตัวเองเข้ามา โดยพฤติการณ์ส่วนใหญ่ คือ พาผู้เสียหายไปคุยที่ร้านอาหารและพาไปขืนใจที่ห้อง ในวันนี้มีผู้เสียหายบางคนที่ถูกวางยาจะมาแจ้งความด้วย ส่วนอีกรายถูกกระทำที่ประเทศอังกฤษ จะเข้ามาเป็นพยาน

ในส่วนเรื่องตำรวจยศพันตำรวจเอก จะให้เงินปิดปากผู้เสียหายนั้น ษิทรา กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูล แต่ได้ให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบแล้ว สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นขบวนการของพรรคก้าวไกลที่จะดิสเครดิตนั้น ส่วนตัวยืนยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล และไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย ซึ่งหลังจากนี้หากผู้ก่อเหตุพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ตัวเองจะทำเรื่องถอนการประกันตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ แต่ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ และใครเงียบไป 

ษิทรา ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิต แต่คิดว่าน่าจะเป็นรสนิยมความชอบส่วนตัว ชื่นชอบพฤติกรรมบังคับขู่เข็ญ แม้ว่าจะมีศักยภาพที่จะซื้อบริการได้ แต่ทั้งหมดไม่ใช่ข้ออ้างในการต่อสู้คดี เพราะจากประวัติที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุยังไปเป็นวิทยากรเวทีต่างๆ ได้ มีสติปกติดี 

พร้อมกันนี้ ษิทรา ขอชื่นชมตำรวจ สน.ลุมพินี ที่ประสานตัวเองตลอด ทั้งการเตรียมพนักงานสอบสวนหญิงไว้ให้ และจะให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกัน เพื่อให้พยานหลักฐานมีความหนักแน่น และตัวเองจะขอให้การเป็นพยานในคดีนี้ด้วย