ล็อตเตอร์ เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวแอฟริกาใต้วัย 51 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในแทนซาเนีย ทั้งนี้ เขาเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ PAMS ซึ่งทำงานเพื่อหยุดการลักลอบล่าช้าง และการค้างาช้างในประเทศแถบแอฟริกาตะวันออก
ล็อตเตอร์ถูกยิงจนเสียชีวิตในเมืองดาร์เอสซาลามของแทนซาเนีย ขณะที่เขากำลังโดยสารรถแท็กซี่ก่อนที่จะถูกซุ่มโจมตี ทั้งนี้ ทางการยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัดในการสังหารเขา แต่เพื่อนร่วมงานของล็อตเตอร์เชื่อว่า เขาถูกสั่งเก็บจากการที่เขาทำงานด้านการปกป้องช้าง
ทั้งนี้ จำเลยผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) เป็นชาวแทนซาเนีย 9 คน และพลเมือง 2 คนของบุรุนดี ประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกันกับแทนซาเนีย
เลลา มกอนยา ตุลาการศาลฎีกาแทนซาเนียกล่าวว่า มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า มีการเชื่อมโยงทั้ง 11 จำเลย กับ 2 ข้อหาที่พวกเขาถูกตั้งในสำนวนการฟ้อง ได้แก่ การสมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรม และการฆาตกรรม
“ผู้ต้องสงสัยบางคนในคำให้การของพวกเขา ซึ่งบันทึกไว้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสารภาพว่าพวกตนมีส่วนในการนัดพบกันเพื่อสมรู้ร่วมคิดและร่วมกันลงมือสังหาร” ผู้พิพากษากล่าวในศาล
“หลักฐานที่ให้มานั้นมีน้ำหนักมากพอที่จะตัดสินลงโทษพวกเขา” ก่อนที่ศาลจะตัดสินโทษประหารชีวิตแก่ 11 ตำเลย ทั้งนี้ การลดโทษประหารชีวิตไม่ใช่เรื่องแปลกในแทนซาเนีย โดยจำเลยมักถูกลดโทษให้เหลือแต่การจำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ดี การประหารชีวิตครั้งสุดท้ายในแทนซาเนียเกิดขึ้นเมื่อปี 2537
แทนซาเนียเป็นหนึ่งในประเทศในแอฟริกาที่ได้รับผลกระทบจากการลักลอบล่าช้างมากที่สุด โดยแทนซาเนียสูญเสียช้างไปแล้วกว่า 66,000 เชือกใน 10 ปี แต่ความพยายามขัดขวางการลักลอบล่าช้าง ส่งผลให้การลักลอบล่าสัตว์ลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
รายงานโดยกลุ่ม Global Witness ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอพบว่า ทั่วโลกมีนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 200 คนเสียชีวิตในปี 2564 และมากกว่า 1,700 คนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ที่มา: