ไม่พบผลการค้นหา
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงมาตรการทำความสะอาด หลังพบเจ้าหน้าที่สายการบินที่ปฏิบัติงานภายในคลังสินค้าติดโควิด-19 เผยปิดทำความสะอาด พร้อมให้พนักงานที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดหยุดงาน-กักตัว 14 วัน แจงผลตรวจพนักงานทำความสะอาดไม่ติดเชื้อ

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ขอเรียนชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบิน KOREAN AIRLINES ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในคลังสินค้า ซึ่งภายหลังได้รับการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวติดเชื้อไวรัส Covid-19 โดยทราบผลเมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 สำนักงาน KOREAN AIRLINES ได้ปิดเพื่อทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค พร้อมกับให้พนักงานที่ปฏิบัติงานที่ใกล้ชิดกับพนักงานรายดังกล่าวหยุดงานและกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ คลังสินค้าการบินไทยซึ่งสายการบิน KOREAN AIRLINES เป็นลูกค้าเช่าพื้นที่ ได้ทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช่นกันหลังจากทราบว่ามีพนักงาน KOREAN AIRLINES ติดเชื้อดังกล่าว และ ทสภ. จึงมีการยกระดับมาตรการป้องกันโดยจะมีการตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแก่พนักงานและ  ผู้มาใช้บริการทุกคน 7 จุด ดังนี้

  • อาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ทสภ. (BFZ)
  • อาคารจอดรถยนต์ P-1 / ห้องงานออกบัตรบุคคลและยานพาหนะ (P-1) และโรงอาหาร P-1
  • ห้องออกบัตรฯ (GH-1)
  • จุด Access Control ขาเข้า เขตปลอดอากร ทสภ.
  • จุดตรวจสอบสินค้า (Checking Post) ขาเข้า เขตปลอดอากร ทสภ.
  • อาคารสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ทสภ. (BC)
  • อาคารจอดรถยนต์ P-2 และโรงอาหาร P-2

กรณีหากพบพนักงานและผู้มาใช้บริการมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.63 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในเขตปลอดอากรโดยการทำความสะอาดด้วยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และเช็ดทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสร่วม ห้องอาหารในเขตพื้นที่ปลอดอากรจะมีการจัดพื้นที่โดยให้นั่งห่างกัน และเน้นให้ซื้อกลับไปทานแบบจานเดียว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการคลังสินค้าในพื้นที่ปลอดอากรของทสภ. รายใหญ่มี 2 รายคือ การบินไทย และ BFS โดยทั้ง 2 รายมีมาตรการการคัดกรองพนักงานและผู้ใช้บริการ และมีมาตรการการทำความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ทสภ. มีมาตรการรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ภายในเขตปลอดอากร โดยเพิ่มรอบความถี่ทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดโดยเน้นตามสถานที่และจุดสัมผัสต่างๆ เช่น ลิฟท์โดยสารและลิฟท์ขนของ ราวจับทางเดิน ราวจับบันได ประตูเข้า-ออกทุกๆ 2 ชั่วโมง เช็ดทำความสะอาดและพ่นแอลกอฮอล์ภายในรถเวียนและรถตู้ให้บริการภายในเขตปลอดอากร ทำความสะอาดห้องน้ำและบริเวณพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด วางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อสำหรับให้บริการตามจุดต่างๆ ในอาคารภายในเขตปลอดอากร ตรวจวัดอุณหภูมิและคัดกรองผู้ที่เข้าปฏิบัติงานภายในอาคารขนถ่ายสินค้า โดย บริษัท การบินไทย จำกัด (TG) และ บริษัท ดับบลิวเอฟเอส พีจี คาร์โก้ จำกัด (BFS)


สรุปรายงานการคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดCovid–19

ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID - 19) สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า - ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มี.ค.63 เวลา 00.00 - 23.59 น.)

1. สรุปจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 636 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 411 เที่ยวบิน แบ่งออกเป็นขาออกจำนวน 205 เที่ยวบิน และขาเข้าจำนวน 206 เที่ยวบิน  เที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 225 เที่ยวบิน แบ่งออกเป็น ขาออกจำนวน 113 เที่ยวบิน และขาเข้าจำนวน 112 เที่ยวบิน 

2. สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า - ออก ระหว่างประเทศ ณ ทสภ. มีจำนวนทั้งสิ้น 52,799 คน เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 33,390 คน แบ่งออกเป็นผู้โดยสารขาออกจำนวน 21,628 คน และผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 11,762 คน 

ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีจำนวนเที่ยวบินรวม 1,065 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาออก จำนวน 529 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาเข้า จำนวน 536 เที่ยวบิน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 18 มีนาคม 2563 ทสภ. มีจำนวนเที่ยวบินลดลงร้อยละ 40.3 และในส่วนของจำนวนผู้โดยสารเมื่อมีการเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 192,628 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก จำนวน 100,213 คน และผู้โดยสารขาเข้า จำนวน 92,415 คน ซึ่งมีจำนวนลดลงร้อยละ 76.11

ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 11,762 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI แต่พบผู้โดยสารมีไข้ 3 คน สำหรับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 195 ราย จำแนกเป็นผู้โดยสารที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 108 ราย ไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI เก็บตัวอย่างบุคลากรใน ทสภ. ส่งตรวจ จำนวน 10 คน อยู่ระหว่างรอผล Lab และตรวจพบบุคลากรใน ทสภ. เข้าเกณฑ์ PUI 1 คน ส่งต่อ รพ. ผล Lab Negative และเก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทย ที่ไม่มีเอกสารแสดงผลการตรวจ Covid-19 ในระยะเวลา 3 วัน จำนวน 6 คน (อยู่ระหว่างรอผล Lab 4 คน อีก 2 คน ผล Lab Negative) ซึ่งจะต้องมีผล Lab Negative ถึงจะเข้าเมืองได้ โดยที่ผู้โดยสารพักรออยู่ที่ห้องตรวจคัดกรองของด่านควบคุมโรคฯ สุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก จำนวนทั้งสิ้น 29,277 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI  โดยวันที่ 18 มี.ค.63 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี จำนวน 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 449 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 195 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 108 คน


แจงผลตรวจพนง.ทำความสะอาดไม่ติดเชื้อโควิด ย้ำมีเครื่องเทอร์โมสแกนหลายจุด

ทั้งนี้ ตามที่มีข่าวเผยแพร่กรณีพนักงานทำความสะอาดเป็นลมล้มลงที่บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารเมื่อวานนี้และได้มีการนำตัวส่ง รพ. ทสภ. ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า จากผลการตรวจสอบผล LAB ได้ออกเป็น negative พนักงานคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อไวรัส Covid-19

นอกจากนี้ จากกรณีมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้เดินทางมาจากประเทศสเปน เมื่อลงจากเครื่องไม่ได้มีการผ่านจุดคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า ทสภ. ได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้ามีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน จำนวน 5 จุด ที่บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 3 จุด โดยผู้โดยสารทุกคนที่จะต้องผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางจะต้องผ่านจุดตรวจคัดกรองเครื่องตรวจเทอร์โมสแกน



ข่าวที่เกี่ยวข้อง :