ไม่พบผลการค้นหา
'ณัฐวุฒิ' โต้กระแสวิจารณ์ปม 'แพทองธาร' เคลมผลงาน ‘ประยุทธ์’ เรื่อง 'ถนนเขาพลายดำ' ชี้โครงการผ่านความเห็นชอบสมัยรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' ตามปีงบประมาณ 2557 เผยระหว่างดำเนินการโครงการมีบางพรรคพยายามล่ารายชื่อคัดค้าน-ร้อง กมธ.

จากกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่พร้อมคณะครอบครัวเพื่อไทยที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยทวิตเตอร์ของ แพทองธาร ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมทวีตข้อความว่า ถนนเส้นนี้ชื่อว่า ‘ถนนเขาพลายดำ-ท้องหยีจ.นครศรีธรรมราชค่ะ คนพื้นที่บอกว่าเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ ข้างหนึ่งเป็นภูเขา อีกข้างจะเป็นทะเล วิวสวยอย่างแรงนิ”

แพทองธาร ระบุอีกว่า เป็นทางที่เชื่อมระหว่าง อ.ขนอม กับ อ.สิชล เพื่ออำนวยความสะดวกลดระยะเวลาเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน เป็นผลงานโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ค่ะ แม้ภาคใต้จะยังไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเลยก็ตาม ในฐานะรัฐบาลเราจะต้องพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยทุกคน และหวังว่าเราจะได้ ส.ส.มาทำงานให้คนใต้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเคลมผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวได้รับการอนุมัติงบประมาณการก่อสร้างในปี 2561

ณัฐวุฒิ -F302-47A5-997D-AE22953572C7.jpeg

ขณะที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุเมื่อวันที่ 15ธ.ค. 2565 ผ่านการแถลงข่าวประเด็น 'ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม' ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ว่า เรื่องดังกล่าว ไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงเรื่องถนนเลียบชายฝั่งทะเลเขาพลายดำนี้ได้เท่าตน โดยในปี 2555 รัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตนเลยชวน ยิ่งลักษณ์ แวะที่ อ.สิชล และเล่าประวัติความเป็นมาของถนนเส้นดังกล่าว ซึ่งประชาชนนั้นรอการพัฒนาของถนนเส้นนี้มาอย่างยาวนาน นายกฯ ในขณะนั้นจึงเห็นชอบ และให้ทางจังหวัด กรมอุทยานแห่งชาติ กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทำงานด้วยกัน โดยกรมอุทยานแห่งชาติเป็นเจ้าของโครงการแต่ขอให้กรมทางหลวงเป็นผู้ออกแบบ

จากนั้นโครงการดังกล่าวจึงได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี และผ่านความเห็นชอบในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 หรือเรียกว่า งบประมาณทั้งหมดผ่านสภาฯ ในยุคยิ่งลักษณ์ เพียงแต่มีการรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ในขณะนั้น) จึงทำให้การก่อสร้างโครงการชะลอตัวไปจึงมาแล้วเสร็จในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกที่จะให้คนมาสร้างความสับสน

ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ถ้าจะมีเรื่องที่ดราม่ากัน น่าจะดราม่าในมุมที่ว่า หากถนนแล้วเสร็จผู้คนในพื้นที่จะได้ใช้ประโยชน์ มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยว แต่ขณะกำลังดำเนินการกลับมีนักการเมืองบางพรรคคัดค้านไปล่ารายชื่อประชาชนในพื้นที่ให้คัดค้านแต่ไม่มีใครลงชื่อ จึงให้คนไปร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นริศ ขำนุรักษ์ เป็นประธานกมธ. จึงต้องมีการชี้แจงจนเกิดความวุ่นวาย แต่ก็ผ่านความเห็นชอบของสภามาได้ หากจะดราม่า ลองไปหาดูว่่าพรรคไหนเป็นคนคัดค้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรายงาน โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเล อ.สิชล-อ.ขนอม เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.นครศรีธรรมราฃ (โครงการปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้) ระบุว่า วันที่ 21 ต.ค. 2555 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะได้ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคเอกชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.นครศรีธรรมราช ณ ร้านอาหารเขาพลายดำรีสอร์ท อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และได้มีข้อสรุปสั่งการจัดประชุม จัดทำแผนงาน/โครงการเสนอเป็นการด่วน

จากนั้นจึงได้เริ่มมีการสั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 14 และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เพื่อพิจารณาตรวจสอบและนำเสนอทาง จ.นครศรีธรรมราช ให้เห็นชอบ และอนุมัติโครงการต่อไปด้วยวงเงิน 105 ล้านบาท ระยะทาง 3.15 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ 6 พ.ย. 2555 ถึงวันที่ 4 ธ.ค. 2555 ตามลำดับ

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนินมาตามขั้นตอน โดยมีการประชุมพิจารณาตามมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการที่ดิน โดยมีข้อพิจารณาสอดคล้องกับสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ และสำนักงานโยธาและผังเมือง จ.นครศรีธรรมราช และส่งแบบโครงการฯ โดยสำนักทางหลวงที่ 14 เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และอนุมัติแบบแปลนในวันที่ 15 พ.ย. 2556 ก่อนที่ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จะทำหนังสือแจ้งมายังหัวหน้าอุทยานฯ (ทส.0915.5/10402) เรื่องกรมอุทยานฯ พิจาณาโครงการฯ แล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม และแบบแปลนได้ผ่านการตรวจรับรองแล้ว จึงอนุมัติให้ดำเนินการตามโครงการต่อไปในวันที่ 18 ธ.ค. 2556

129053.jpg129054.jpg