พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ตอนที่ 14 ต. โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมเป็นประธานจ่ายค่าเวนคืนที่ดินให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติม 12,032 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจ่ายคืนให้ครบภายในเดือนธันวาคม 2562 เพื่อเร่งส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างได้เดินหน้าก่อสร้างอย่างเต็มที่ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป หลังล่าช้ามากว่า 2 ปี และจะเร่งโครงการให้เสร็จเปิดให้บริการภายในปี 2566
โดยนายกรัฐมนตรี ได้เริ่มด้วยการแนะคณะทำงานที่เดินทางมาครั้งนี้ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลในพื้นที่ รวมทั้ง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส. จ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ที่เพิ่งได้รับการเลือกให้เป็นส.ส.ในการเลือกตั้งซ่อม จ.นครปฐม เขต 5
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. มีหน้าที่ในการดูแลประชาชน โดยต้องทำความเข้าใจกันด้วย ซึ่งวันนี้ดีใจที่ได้เริ่มจ่ายค่าเวนคืนที่ดินให้กับประชาชน เพราะ พร้อมขอให้เร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนปี 2566 เพราะประชาชนรอมานานแล้ว ส่วนประชาชนก็ขอให้เข้าใจ และช่วยกันแม้บางคนอาจจะไม่ได้ค่าเวนคืน แต่จะได้โอกาสในการสัญจรไปมา
รัฐบาลต้องมีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยยึดตัวกฎหมายเป็นหลักในการอนุมัติแผนงานและโครงการ รวมถึงค่าเวนคืนต่างๆ โดยเข้าใจว่าหลายคนเดือดร้อน แต่รัฐบาลร้อนใจยิ่งกว่า เพราะต้องหางบประมาณ และสร้างโอกาสให้ประชาชนมีความเท่าเทียมและเป็นธรรม ขอให้ติดตามรัฐบาล อย่ามัวมาวิ่งไล่ตนเอง ขอแค่ตามให้ตามตนเองให้ทัน ว่ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วม นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว ขออย่าต่อต้านทุกวัน เพราะหากรัฐบาลเป็นรัฐบาลที่ใจดีมากๆ วันนั้นจะกลายเป็นรัฐบาลล้มเหลวทันที
นายกรัฐมนตรี ขอให้หน่วยงานที่กี่ยวข้องเร่งรัดในการจ่ายเงินให้เร็วที่สุดไม่ใช่รอสิ้นเดือน ธ.ค. เพราะประชาชนจะได้วางแผนในการใช้จ่ายเงิน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวว่า ใครผิดก็ให้ว่าไปตามผิด กฎหมายมีอยู่ อย่าไปใจร้อนในทุกเรื่อง โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน เพราะหากตัดสินกันเองคงไม่ต้องมีศาล ตำรวจ และอัยการ ซึ่งให้มีการตัดสินก่อนเพราะมีแนวทางในการปฏิบัตอยู่แล้ว
วันนี้สังคมไทยต้องลดความขัดแย้ง บิดการบิดเบือน ให้ 3 ฝ่ายได้ทำหน้าที่ ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ตามอำนาจรัฐธรรมนูญทุกประการ เพราะทุกคนเข้ามาอยู่ตรงนี้ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ขออย่าให้เสียเวลาและล่าช้าออกไปอีก หากกลับมาวุ่นวายอีกทุกอย่างก็หยุดทั้งหมด โดยวันนี้ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ปี 2563 ที่ยังไม่ผ่านจากเห็นชอบจากรัฐสภา ทำให้ทุกอย่างล่าช้าออกไปอีก ทุกวันนี้ มีหลายคนอยากให้ยกเลิกงบประมาณบางส่วน และขอให้รัฐบาลไปซะ ซึ่งตนคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา ขอให้ทำงานกันไปเรียบร้อยก่อน เพราะเพิ่งทำงานกันมา 4-5 เดือนเอง
พร้อมถามติดตลกว่า มีใครคิดว่าไม่ควรสร้างบ้าง จะได้รื้อทิ้งเลย อย่างไรก็ตาม ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมาตนเองก็ทำอย่างเต็มที่ และขอให้ช่วยกันสานต่อตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่ออนาคตลูกหลาน พร้อมกล่าวว่า "แรมโบ้" ก็นั่งอยู่ตรงนี้ และขอให้ทุกคนสัญญาว่าจะร่วมกันทำ ขอให้ปรบมือ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ ขอบคุณทุกคนทุกภาคส่วน ขอตำรวจ ทหารทำงานของตนเองให้ดีที่สุด สมศักดิ์ศรีและคุ้มค่า แม้เงินเดือนจะน้อย เพราะตนเองเคยผ่านมาและอยู่มาได้ โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ร่วมกันทำความดี พร้อมอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชน ก่อนจะเดินทักทายและร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง
ปัดตอบกระแสข่าว 'พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค' จะมาเป็นที่ปรึกษา
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ จะมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่เคยได้ยินข่าวนี้ ทั้งนี้เมื่อถามว่า คุณสมบัติความรู้ความสามารถของนายพีระพันธุ์ เป็นที่ปรึกษาได้หรือไม่นายกรัฐมนตรีเลี่ยงที่ตอบคำถาม โดยบอกว่า ก็ว่ากันไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ที่นครปฐม นายกรัฐมนตรีใช้รถ ใช้รถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กณ6724 เป็นพาหนะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :