พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงข้อสงสัยจากสังคมกรณีตั้งคำถามถึงปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างทำความสะอาดถนนเพื่อแก้ปัญหามลพิษ โดยระบุว่า สามารถช่วยจับฝุ่นละอองได้ 10-20 เปอร์เซนต์  

"ขอตอบเลยว่า ไม่ทั้งหมดครับ ช่วยจับฝุ่นละอองได้เพียง 10-20% เท่านั้น แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็ได้เข้มงวดการปฏิบัติเพื่อช่วยลดมลพิษ เช่น กรมการขนส่งทางบก เข้ามาข่วยในการตรวจจับควันดำ และขสมก.ก็ได้กวดขันการบำรุงรักษารถประจำทางให้อยู่ในสภาพดี ไม่ปล่อยมลพิษในปริมาณสูง ตำรวจก็เข้ามาจัดการจราจรไม่ให้คับคั่งนานๆ เฉพาะจุด และผมได้กำชับ 50 เขตไปตรวจโรงงานและโครงการก่อสร้างต่างๆ ด้วย หากจุดใดสามารถลดระยะเวลาการทำงานได้ ก็ขอให้งดในระยะนี้

สำหรับช่วงบ่ายวันนี้ที่กทม. (เสาชิงช้า) ก็จะมีการประชุมระดมสมองจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชนและนักวิชาการและติดตามการปฏิบัติงานในการแก้ปัญหา

ผมขอเชิญท่านที่มีความรู้และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการแก้ไขปัญหามลพิษมาร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้นะครับ เพราะลำพังผม กทม. หรือหน่วยงานภาครัฐ อาจยังไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากพอ และเรายินดีรับฟังทุกความคิดความเห็น เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนของเราครับ" 

ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เริ่มปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำระดับสูงด้วยโดรนในพื้นที่ กทม.ที่มีค่ามลพิษสูง 6 จุด เพื่อหวังลดฝุ่นละออง ซึ่งจะดำเนินการ 2 วัน คือ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 62 

ฐานการบินโดรน 6 จุด จะมีฐานการบินจุดที่ 1 อยู่ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) จุดที่ 2 บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) จุดที่ 3 ม.เกษตร จุดที่ 4 สวนจตุจักร-ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่ 5 สวนลุมพินี และจุดที่ 6 ฐานบินสะพานพระราม 9 ฝั่งพระนคร ระยะการบินแต่ละจุดประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร หรือขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ซึ่งทีมโดรนจะขึ้นบินเป็นกลุ่ม ไล่เรียงไปทีละจุดครับ

นอกจากนี้ตลอดคืนที่ผ่านมาและช่วงเช้ามืด หลายๆ หน่วยงาน ทั้งกทม. และหน่วยทหารสังกัดต่างๆ ได้ระดมฉีดน้ำและล้างทำความสะอาดถนน ทางเท้า และที่สาธารณะทั่วกรุงเทพฯ อีกทางหนึ่ง

ภาพจากเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน