ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอาญาพิพากษา ปรับ 'ฟิลลิป มอร์ริส' กว่า 1,200 ล้านบาท ในคดีหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ โดยฉ้อโกงสำแดงราคาอันเป็นเท็จ

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ห้องพิจารณา 910 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้าบุหรี่ หมายเลขดำ อ.185/2559 พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัทฟิลลิป มอร์ริสฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล มีนายเจอรัลด์ มาโกลีส ชาวสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งผู้จัดการสาขา บ.ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ผู้แทน พร้อมพวกจำเลยร่วมเป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดฐานร่วมกันเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ ในการหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากร โดยเจตนาที่จะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 115 จัตวา, พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2490 มาตรา 3, พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 17 ) พ.ศ.2543 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ.2489 มาตรา 4-9 ซึ่งคดีมีอัตราโทษ ตามกฎหมายศุลกากร ให้ปรับเป็นเงิน 4 เท่า ราคาที่รวมค่าอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ทั้งปรับและจำคุก

ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2559 บรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.ค.2546-24 มิ.ย. 2549 บริษัท ฟิลลิปฯ กับพวก ได้ร่วมกันนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อดังจากต่างประเทศ เข้ามาในราชอาณาจักร และร่วมกันบังอาจสำแดงเท็จโดยฉ้อโกงและออกอุบายด้วยการยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร กรมศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร โดยสำแดงราคาอันเป็นเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดทั้งสิ้น 272 ครั้ง โดยรวมราคาของสินค้าบุหรี่บวกกับราคาภาษีอากร ที่หลีกเลี่ยงเป็นเงินทั้งสิ้น 20,210,209,582.50 บาท จำเลยศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไป ด้วยหลักทรัพย์คนละ 1 ล้านบาท

โดยศาลอาญาได้พิพากษา ให้ปรับ บริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 1,225,990,617 บาท ฐานหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร (MARLBORO) และยี่ห้อ แอลแอนด์เอ็ม (L&M) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยการสำแดงเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากร 

ส่วนจำเลยที่ 2-8 ยกฟ้อง เนื่องจากเป็นลูกจ้างที่ลงลายมือชื่อตามหน้าที่ เมื่อเป็นการทำนิติกรรมในต่างประเทศ จำเลยที่ 2-8 ซึ่งเป็นพนักงานคนไทย ไม่มีส่วนรู้เห็น พยานหลักฐานยังไม่พอที่จะลงโทษได้