หากยังต้องจับตา “คณะก้าวหน้า” ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวหอก ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกฯ อบจ.ถึง 42 จังหวัด
ตามการคาดหมายของ “คณะสีส้ม” ว่าจะขี่กระแส “ธนาธร - ม็อบราษฎร” ผลักคนรุ่นใหม่ชูสามนิ้ว ให้กลับถิ่นมาเลือกนายกฯ อบจ. ตั้งเป้าที่อยากได้ในกระเป๋า 10 ที่นั่งก็ถือว่าเป็น “กำไร” สร้างอิมแพ็คในพื้นที่ สะเทือนไปถึงเวทีสภาผู้แทนราษฎร ที่มี “พรรคก้าวไกล” รับไม้ต่อ
นอกจากจะใช้เป็น “สัญลักษณ์” การเมือง ล้มตระกูลบ้านใหญ่ในจังหวัดสำคัญ ยังหวังแก้กฎหมายจังหวัดปกครองตนเอง ไปจนถึงปฏิรูประบบงบประมาณท้องถิ่น
แต่อีกด้าน แกนนำคณะก้าวไกลก็มองว่า กระแสม็อบราษฎร กับ กระแสคนรุ่นใหม่ที่ชุมนุมกันอยู่ในเมืองหลวง อาจเป็น “ดาบสองคม” ให้กับ คณะก้าวหน้าในศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.
เพราะปฏิเสธว่า หลายพื้นที่ หลายจังหวัด นอกจากมีแนวร่วมมาคอยเชียร์ ยังมีแนวไล่ที่มีทั้ง “จัดตั้ง” และ “ตั้งใจมาไล่” ปะปนกันไป ในแต่ละพื้นที่
แกนนำคณะก้าวหน้ารายหนึ่งมองว่า “ธนาธร” เป็นเหยื่อ ของคนที่อาจไม่ชอบการชุมนุมของนักศึกษา – ม็อบราษฎร แล้วต้องหารูระบายความอัดอั้น
“ธนาธร” จึงเป็นเหยื่อของการระบายออกของพิษการเมืองในขณะนี้
แคมเปญช่วงโค้งสุดท้าย คณะก้าวหน้า จึงเตรียมที่จะ “ลบภาพ” ที่โยงกับการหมิ่นเหม่เรื่องสถาบัน
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ “ธนาธร” และพวกจะพยายามปัดป้องว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของ “ราษฎร” แต่ทั้งปฏิบัติการไอโอ และ สังคมอนุรักษนิยม ได้จับเอาความเคลื่อนไหวของ “คณะก้าวหน้า” โยงไปตั้งแต่ วีรกรรมในสภาของอดีตอนาคตใหม่ ประกอบกับแกนนำคณะก้าวหน้ายังปรากฏตัวในที่ชุมนุมหลายวาระก่อนหน้านี้
จนทำให้มวลชนฝ่ายอนุรักษ์ จับ “คณะก้าวหน้า” ไปพัวพันกับกิจกรรมของ “คณะราษฎร” ซึ่งทำให้การวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งท้องถิ่นของ “คณะก้าวหน้า” มองว่า หากปล่อยไว้เฉยๆ จะทำให้บรรยากาศการเมืองท้องถิ่นถูกบิดผันไป กลายเป็นการแบ่งขั้วพุ่งเป้ามาที่ “ธนาธรและพวก” ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง
นอกจาก เกมไล่ทุบ “ธนาธร” และทีมงานคณะก้าวหน้า ยังมีพงหนามที่คอยสกัดระหว่างทางก่อนถึงเส้นชัย
เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งคณะกรรมการไต่สวน กรณีที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องเรียน “คณะก้าวหน้า” เข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 111 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดว่า
ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังพิจารณาข้อมูลหลักฐานตามที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงานกกต. รวบรวมเสนอแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักพอสมควรที่ กกต.จะดำเนินการต่อไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสอบสวนและไต่สวนได้
เพราะการดำเนินการของ “คณะก้าวหน้า” มีโครงสร้างคล้ายกับพรรคการเมือง ที่ “ธนาธร” เป็นหัวหน้า “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เป็นเลขาธิการ และยังมีคณะกรรมการบริหารคณะก้าวหน้าอีก
ทั้งนี้ หากการสืบสวน กกต.พบว่า การดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมาตรา 111 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 ซึ่งไม่เพียงต้องมีการดำเนินคดีอาญาหัวขบวนแล้ว
หาก กกต.สืบสาวราวเรื่องว่า การตั้ง “คณะก้าวหน้า” เป็นการกระทำที่ทำให้การเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ. ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อาจนำไปสู่ การระงับสิทธิสมัครของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว หรือใบส้ม รวมถึงการสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลืองได้ด้วย
ยังไม่นับผลงานในอดีตของ “ธนาธร” ที่ถูกขุดมาเล่นงานทางการเมือง มีการปล่อยทั้งคลิป ทั้งข่าว กรณีที่ “ธนาธร” ครั้งเป็นกรรมาธิการงบประมาณ 2564 ในฐานะตัวแทนของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ถึงการเสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำนเหมือง ตะกั่ว จังหวัดพัทลุง และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมือง นครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนื่องจากประชาชนไม่ ได้ประโยชน์และมีโครงการอื่นที่ต้องการ มีความจำเป็นมากกว่า
ซึ่งที่ประชุม กมธ.งบประมาณลงมติเห็นด้วย 22 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการตัดงบประมาณ 21 เสียง งดออกเสียง 9 เสียง
ท้ายที่สุดก็นำมาโยงกับสถานการณ์น้ำท่วมที่นครศรีธรรมราช ว่า “ธนาธร” มีส่วนทำให้เมืองนครกลายเป็นเมืองบาดาล
รวมถึง การที่ขุดคดี “น้องชายธนาธร” สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ตกเป็นจำเลยในการให้เงินสินบนกับอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการได้สิทธิ์เช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม-เพลินจิต ที่กำลังจะหมดสัญญาในปี 2565
แม้ที่สุดแล้ว “สกุลธร” จะไม่ถูกอัยการสั่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพราะสำนวนยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ยังไม่ถึงมืออัยการก็ตาม แต่ “ธนาธร” ก็ถูกหางเลข ในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งท้องถิ่น
เป็นเรื่องอันน่าปวดหัวของผู้ได้รับสมญาว่า “พ่อฟ้า” ก่อนนับถอยหลังเลือกตั้งท้องถิ่นใน 20 ธ.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง