ไม่พบผลการค้นหา
การเมืองไทยยังคงถูกมองข้ามช็อต เริ่มมีการมองหานายกฯ คนต่อไป ที่จะมาต่อคิว ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม โดยเฉพาะการคาดการณ์จากฝ่ายค้าน ทว่าชื่อที่ถูกพูดถึงกลับไม่ใช่บุคคลในฝ่ายค้าน แต่กลับเป็นชื่อ บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.

ก่อนหน้านี้ ‘วิสาร เตชะธีราวัฒน์’ ส.ส.เชียงราย เพื่อไทย อภิปรายในสภา คาดว่า นายกฯ คนต่อไป คือ ผบ.ทบ. ทำให้ชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ที่นิ่งๆ อยู่ กลับเป็นกระแสขึ้นมา แถมถูกตีกระแสหนักขึ้นไปอีกจาก ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ออกตัวเชียร์ว่า “ถ้าเป็นได้ก็ดี” จนสุดท้าย พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาแก้ข่าวว่า ‘พูดเล่นๆ’ เท่านั้น

จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้ออกมาปฏิเสธด้วยตนเองว่า “ผมเป็นเพื่อนกับนักการเมืองดีกว่า ผมไม่เล่นการเมือง ผมไม่เล่นกับนักการเมือง”

ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ก็รู้จักกับนักการเมืองหลายคน เช่น ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ‘ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง’ เป็นต้น โดยผ่านคอนเนกชั่นจากคุณพ่อ ‘บิ๊กจ๊อด’ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สูงสุด และอดีต หัวหน้า รสช.

ในขณะนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้ยกเหตุผล 2 ข้อขึ้นมาด้วย ว่า 1.ตนยังรับราชการอยู่ 2.ตนเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ-ปลัดกลาโหม ตามที่ รธน.ต้องห้ามไปดำรงตำแหน่งการเมือง

โดย รัฐธรรมนูญ 2560 การที่ ส.ว. จะมาเป็น ‘แคนดิเดตนายกฯ’ ได้นั้น จะต้องพ้นตำแหน่ง ส.ว. ไปแล้ว 2 ปี ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย. 2563 เท่ากับว่าจะมีคุณสมบัติต่อเมื่อถึง ต.ค. 2565 เว้นแต่มาด้วยวิธี ‘ปฏิวัติ-รัฐประหาร’

ส่วน ‘บิ๊กตู่’ ก็ออกมาสยบข่าวเปรียบกับ ‘ดับฝัน’ นี้ลงไป ว่า “พล.อ.อภิรัชต์ เขาก็ตอบแล้วว่าความตั้งใจเขาเป็นอย่างไร แล้วการเป็นนายกรัฐมนตรีมันเป็นได้ง่ายนักหรืออย่างไร ใครจะมาเป็น มันไม่ง่ายนักหรอก”

ล่าสุด ‘ช่อ’ พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ จะมาเป็น นายกฯ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดยตั้งคำถามว่า ‘เขา’ เตรียมใครไว้รู้หรือไม่ จึงเกิดคำถามตามมาว่า ‘เขา’ คนนี้คือใคร ?

"ตราบใดยังมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กฎหมายเลือกตั้งยังเป็นแบบนี้ อีกสิบชาติธนาธรก็ไม่ได้เป็นนายกฯ หมดลุงตู่มีใครรออยู่รู้ไหม ไม่รู้ พูดแล้วเหยียบไว้ตรงนี้นะ หมดลุงตู่เขาเตรียมใครไว้รู้ไหม ? บิ๊กแดง บิ๊กแดงนะจ๊ะ ไม่ใช่พี่น้องเสื้อแดง" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะทำให้เกิดกระแสตามมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ จะมีการ ‘ถอดใจ’ ระหว่างทางหรือไม่ รวมทั้ง พปชร. มีการหาบุคคลที่จะมาเป็น นายกฯ คนต่อไปหรือไม่ ?

โดย พล.อ.ประวิตร ได้ตั้งคำถามกลับไปยัง ‘ช่อ’ ว่า ‘เขา’ ที่พูดนี้คือใคร ? และไม่รู้ว่าการออกมาพูดของ ‘ช่อ’ เช่นนี้หวังผลอะไร แต่ตนมองว่าอาจหวังผลให้ตีกันก็ได้

พรรณิการ์ อนาคตใหม่ ช่อ _190610_0020.jpg

ส่วนกระแสข่าวเช่นนี้เคยมาจาก ‘พรรคเพื่อไทย’ ครั้งนี้มาเกิดกับพรรคอนาคตใหม่ สะท้อนสิ่งใดจากฝ่ายค้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เป็นคนๆ เดียวพูด ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของตัวบุคคล”

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้หาใครมาเป็นนายกฯ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นไปจนจบ หลังจบไปแล้ว ตนก็ยังไม่รู้ ต้องไปถามพรรคก่อน ซึ่งตนตั้งใจให้จบ 4 ปีนี้ไปก่อน ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะถอดใจหากครบ 4 ปีไปแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ตนไม่ทราบ แต่นายกฯ จะอยู่ให้ครบ 4 ปี ส่วนจะเป็นต่อหรือไม่ ยังอีกตั้งนาน

หากจะจับคำพูดของ พล.อ.ประวิตร ที่คาดว่าการปูดชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ขึ้นมาของ ‘ช่อ’ นั้น เพื่อให้ตีกัน ก็มีการตีความไปว่าจะเป็น ‘แรงเสี้ยม’ ทางการเมือง ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลหรือไม่ ให้มีความหวาดระแวงกัน แต่อีกมุมก็สามารถมองได้ว่าเป็นการ ‘สกัดทางเดิน’ ของ พล.อ.อภิรัชต์ในอนาคตหรือไม่ เขาสำนวนที่ว่า ‘ทำให้ไก่ตื่น’

ทั้งนี้มองกันว่า พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงมีภารกิจสำคัญที่จะต้องปฏิบัติหลังจากพ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ. และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไปแล้ว ผ่านตำแหน่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ ‘นายทหารพิเศษ’ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

โดย พล.อ.อภิรัชต์ ก็ได้วางทายาท ผบ.ทบ. คนต่อไปไว้ ตามที่คาดการณ์ไว้คือ ‘บิ๊กบี้’พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.22-จปร.34) ที่เกษียณฯ ปี 2566 สามารถนั่ง ผบ.ทบ. ยาว 3 ปีเลยทีเดียว โดย พล.อ.ณรงค์พันธุ์ มีตำแหน่งเป็น รองผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ที่มี พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 อีกทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธุ์ ยังดำรงตำแหน่งเป็น ‘นายทหารพิเศษฯ’ อีกด้วย

ทั้งนี้ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ เก็บตัวเงียบมากว่า 2 เดือน หลังจัดทอล์กแผ่นดินของเราและสัมภาษณ์ไม่เล่นการเมือง ล่าสุดได้ออกมากล่าวถึงการจัดกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ โดยระบุว่าเป็นการวิ่งที่มี ‘นัยยะแฝง’ พร้อมขอไปจัดกรรมวิ่งที่สร้างสรรค์แทน

“แต่ก็มีบางกลุ่มบางพวกวิ่งแบบมีนัยแอบแฝง ซึ่งผมมองว่าถ้าเราวิ่งในเชิงสร้างสรรค์ มาแข่งกัน ในต่างประเทศก็มีการแข่งขันวิ่งสปาตัน นินจาวอริเออร์ ทั้งทหาร ข้าราชการ พลเรือน เป็นการทดสอบร่างกายในเชิงสร้างสรรค์ อย่าลืมว่าถ้าคนในชาติแข็งแรง ประชนแข็งแรง เล่นกีฬามากขึ้น ทำให้ห่างไกลยาเสพติด ห่างไกลในสิ่งไม่สร้างสรรค์” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ประยุทธ์ อภิรัชต์อภิรัชต์ คงสมพงษ์

แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่เท่ากับการที่ พล.อ.อภิรัชต์ ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปี63 โดยเฉพาะการนำคนลงถนน โดยมองว่าเป็น ‘Proxy Crisis’ หรือ ‘วิกฤติตัวแทน’ ที่มีคนบางคนอยู่เบื้องหลังไม่ออกมาสู้ เพราะไม่สามารถออกมาสู้กับภาครัฐได้โดยตรง ต้องมีการสร้างตัวแทนขึ้นมา จึงต้องมีการสร้างตัวแทนขึ้นมา พร้อมโยงถึงการเคารพกฎหมายด้วย

“เมื่อเรามีองค์กรกลาง มีองค์กรอิสระ เรามีศาลตุลาการของเราแล้ว เราก็ต้องเคารพ ถ้าวันนี้คนไทยไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้สถานการณ์ของประเทศนั้น ต่างชาติก็ไม่ได้มองว่าดี ว่าเรามีเลือกตั้งแล้ว แต่ทำไมยังเป็นอย่างนี้อยู่ เพราะเราไม่ยอมรับในเรื่องของกฎหมาย” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ธนาธร ประยุทธ์ แฟลชม็อบ สกายวอล์ก 23.jpg

ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ หลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงตัวบุคคลหรือพรรคใด แต่เป็นที่เข้าใจได้ว่าต้องการสื่อสารไปถึงกลุ่มที่จะ ‘ลงถนน’ ในปีหน้า ซึ่งก็หนีไม่พ้น ‘ธนาธร จึงรุ่งเรือง’ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศลงถนนปีหน้า โดยกล่าวขณะนำแฟลชม็อบ เมื่อเย็นวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าเดือนหน้า (ม.ค.63) ของจริง

ในสถานการณ์ที่พรรคอนาคตใหม่เจอ ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ไปหลายลูก ที่เป็น ‘ระเบิดเวลาทางการเมือง’ นับจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ‘ธนาธร’ พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. รวมทั้งกรณีที่ กกต. มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรค ปม ‘ธนาธร’ ปล่อยเงินกู้พรรค 191 ล้านบาท ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. ยุบพรรคอนาคตใหม่ ปมเงินกู้ พร้อมนัดวินิจฉัย ‘คดีล้มล้างการปกครอง’ 21 ม.ค. 2563 ด้วย

ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์เบื้องต้น โดยอิงจำนวนจากวันแฟลชม็อบที่แยกปทุมวัน หาก ‘ธนาธร’ ลงถนน โดยไม่เกี่ยวกับกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เป็นการนำชุมนุมของตัวเอง จำนวนผู้มาเข้าร่วมจะอยู่ที่ 3,000-5,000 คน โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นด้วย 

ท่ามกลางเสียงเตือนจากแนวร่วมรัฐบาลที่เป็น ‘อดีตแกนนำม็อบ’ ที่ออกมาเตือน ‘ผู้มีอำนาจรัฐ’ ให้ระวังการใช้อำนาจที่อาจเข้าทางหรือกลับเป็นคุณกับพรรคอนาคตใหม่ได้

ทั้งหมดนี้เป็นจุดชี้วัดอนาคตในระยะยาวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะ ‘ลงหลังเสือ’ ในสภาพแบบใด ท่ามกลางสถานการณ์ ‘Proxy Crisis’ ซึ่งทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ ก็ถูกมองว่าเป็น ‘ตัวแทน’ ในการต่อสู้ครั้งนี้ ที่เป็นการต่อสู้ทางความคิดในประเด็นที่เปราะบางและละเอียดอ่อนของสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog