นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย แม้ปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่ไม่หวือวา แต่โดยภาพรวมยังเชื่อว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศจะลอตัวลง โดยประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2561 และในปี 2563 คาดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง
นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น ในส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์ หรือการจัดประชุมสัมมนาในประเทศไทย ก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน เฉลี่ยที่ 47.6 เปอร์เซ็นต์ ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายประเทศเริ่มเปลี่ยนสถานที่จัดประชุมสัมมนาจากจุดหมายปลายทางคือประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง มาที่ไทยมากขึ้น เพราะมีความหลากหลายมากกว่า ขณะเดียวกันความคืบหน้าล่าสุดของโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญของรัฐบาล อย่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ก็มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเดินทางและธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ทำให้บริษัทจึงต้องเตรียมขยายการลงทุนเพื่อรองรับในส่วนนี้
ล่าสุดวันนี้ (14 พ.ย.62) แอสเสท เวิรด์ ลงนามร่วมกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมพัฒนาโครงการที่วางเป้าหมายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางพัทยา ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมระดับเวิลด์คลาสสำหรับทั้งนักเดินทางกลุ่มไมซ์และนักท่องเที่ยว และจุดหมายปลายทางของการชอปปิงแห่งใหม่ และนำแนวคิดใหม่ของโรงแรมที่สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าพักสู่ภูเก็ต ประกอบด้วย ประกอบด้วย โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์คีส์ และโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ วงเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บอร์ดแอสเสท เวิรด์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2562 ยังได้อนุมัติแผนลงทุนระยะ 5 ปี 2563-2567 รวมวงเงินลงทุนกว่า 55,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเติม และพัฒนาโครงการของบริษัทภายหลังที่ผลประกอบการ 3 ไตรมาส ปี 2562 มีกำไรมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์