ไม่พบผลการค้นหา
'ธนาธร' เตรียมนำ coding-การพิมพ์สามมิติ สอนเด็กประถม รร.เทศบาลก้าวหน้า หวังหลักสูตรนี้จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสังคมในระยะยาว

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่โรงเรียนเทศบาลด่านสำโรง อ.เมืองสมุทรปราการ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมบรรยายในการเปิดหลักสูตรการอบรมครูโรงเรียนเทศบาลตำบลด่านสำโรง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดห้องเรียนเทคโนโลยี สอน coding และ 3D printing หรือการพิมพ์สามมิติ

โรงเรียนเทศบาลตำบลด่านสำโรง ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของเทศบาลตำบลด่านสำโรง เป็นหนึ่งในเทศบาลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน โดย สมพงษ์ วีรชาติวัฒนา นายกเทศมนตรีด่านสำโรง เตรียมนำหลักสูตร coding บรรจุเข้าในหลักสูตรการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 360 คนของโรงเรียนในปีการศึกษา 2565 เป็นปีแรก ซึ่งจะเริ่มสอนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ 

โดยการอบรมครูเพื่อเตรียมพร้อมเปิดห้องเรียนเทคโนโลยี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ คณะก้าวหน้าและเทศบาลตำบลด่านสำโรง ได้เชิญวิทยากรจากบริษัท Gravitech โดย ชานนท์ ตุลาบดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท Gravitech ให้เกียรตินำวิทยากรจากบริษัท Gravitech มาเป็นผู้บรรยายหลักในการอบรมทั้งสองวัน

ในส่วนของ สมพงษ์ ระบุว่าการริเริ่มโครงการนี้เป็นหนึ่งในความปรารถนาของตน ที่อยากเห็นโรงเรียนของเทศบาลได้ยกระดับขึ้นเป็นโรงเรียนชั้นนำของประเทศ มีการเรียนการสอนดีเทียบเท่าโรงเรียนเอกชน สอนในทักษะที่เด็กต้องการใช้ในการทำงานในยุคดิจิทัล ซึ่งเดิมคิดจะเริ่มทำตั้งแต่ตนได้ดำรงตำแหน่งนายกในปีที่แล้ว แต่ติดสถานการณ์โควิด โรงเรียนไม่สามารถเปิดสอนได้ จึงทำให้เริ่มต้นได้ช้ากว่ากำหนด 

ด้าน ธนาธร ได้บรรยายถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว ซึ่งมาจากการหารือกับนายกเทศมนตรี ที่ต้องการพัฒนาด่านสำโรงให้เป็นสมาร์ทซิตี้ และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาเมือง และที่สำคัญคือการเรียนการสอนในรูปแบบสมัยใหม่ ซึ่งตนและคณะก้าวหน้าได้ประสานงานการสนับสนุนต่างๆ จากบริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ จนเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้น

ธนาธร กล่าวต่อไป ลูกสาวของตนได้เรียน coding ตั้งแต่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 3-4 ได้เห็นพัฒนาการในการเรียนรู้ของเขา ซึ่งตนเห็นว่าหลักสูตรเช่นนี้ไม่ควรให้เด็กที่เรียนในโรงเรียนเอกชนชั้นนำหรือโรงเรียนนานาชาติได้เรียนอย่างเดียว นี่คือเรื่องความเสมอภาค หากเราอยากให้ลูกหลานของเราไม่ว่าคนรวยหรือคนจนได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน จะต้องเริ่มตั้งแต่ที่โรงเรียน ซึ่งหลักสูตรเช่นนี้จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระยะยาว

โดย ธนาธร ได้ยกตัวอย่างการใช้ coding รูปแบบต่างๆ ทั้งในเรื่องของ 3D printing หรือระบบการพิมพ์สามมิติ ที่กำลังจะเป็นเทคโนโลยีที่แพร่หลายมากขึ้นในอนาคต เมื่อได้รับการพัฒนาขึ้นจนมีราคาถูกลง มีศักยภาพที่จะนำมาใช้งานได้ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งในทางการแพทย์ ก่อสร้าง และการออกแบบอื่นๆ

อีกตัวอย่าง คือการใช้ coding ในหุ่นยนต์อุตสาหกรรม (automation) เพื่อลดการใช้แรงงานของคน ซึ่งบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ในปัจจุบันล้วนหันมาใช้ automation มากขึ้น ปัจจุบันราคาของหุ่นยนต์ก็ถูกลง ทำให้การประยุกตร์ใช้หุ่นยนต์อย่างแพร่หลายเป็นไปได้มากขึ้นแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้ coding กลายเป็นความรู้ที่มีความสำคัญต่อลูกหลานของเราในยุคปัจจุบันอย่างมาก ที่จะนำไปสู่การต่อยอดในอนาคตได้อีกมากมาย

“คนที่จะเป็นเจ้านายของหุ่นยนต์ก็คือคนที่เขียน coding เป็น นี่คือพื้นฐานที่สุดของการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สิ่งที่เราทำวันนี้จะเป็นพื้นฐานให้ลูกหลานของคนในเทศบาลด่านสำโรง พวกเขาจะเข้าถึงทักษะ กระตุ้นความกระหายเรียนรู้ให้พวกเขา นำไปต่อยอดเรียนรู้เพิ่มเติมเองในอนาคตได้” ธนาธร กล่าว

สำหรับหลักสูตรที่จะมีการเรียนการสอนในโรงเรียนเทศบาลตำบลด่านสำโรงในครั้งนี้ คือหลักสูตรว่าด้วย coding ของ Laser printing & 3D printing เป็นหลักสูตรแรก แล้วในระยะที่สองจะเป็นการใช้ coding ในหุ่นยนต์ทำงาน เป็นต้น

ธนาธร กล่าวทิ้งท้าย ฝากให้ครูทุกท่านช่วยกันทำให้การเรียนการสอนเรื่องนี้เป็นไปด้วยความสนุกสนาน กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น ลดการดุว่าลง เพื่อให้เด็กมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการเรียนเรื่อง coding คือการเปิดให้เด็กได้ลองผิดลองถูก ไม่มีวิธีการที่ถูกต้องที่สุดเพียงหนึ่งเดียว และขอขอบคุณครูทุกคนที่ได้มาร่วมกันผลักดันโครงการนี้ให้ลูกหลานของเรา