จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 1,150 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND เป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอสำหรับการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ กระทรวงการคลังจึงเสนอโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND โดยมีสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสรุปได้ ดังนี้
วัตถุประสงค์ : เพื่อสนับสนุนเงินทุนสำหรับเสริมสภาพคล่องหรือลงทุนปรับปรุง/ขยายกิจการให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND 3 กลุ่ม ได้แก่
- ศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub)
- ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub)
- ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub)
กลุ่มเป้าหมาย :
1. ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศซึ่งมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน
2. เป็นผู้ประกอบธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
2.1 ศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub)
2.2 ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub)
2.3 ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub)
2.4 เป็น Supply Chain ของธุรกิจ ตามข้อ (2.1) - (2.3)
3. ประกอบกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และปัจจุบันยังประกอบกิจการ
4. มีความสามารถในการชำระหนี้ตามที่ธนาคารออมสินกำหนด
ทั้งนี้ เป็นการให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ และไมใช่ลูกหนี้ที่โอนหนี้ (Refinance)
วงเงินสินเชื่อโครงการ : 5,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ดังนี้
1 กลุ่มศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) วงเงิน 1,500 ล้านบาท
2 กลุ่มศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) วงเงิน 1,500 ล้านบาท
3 กลุ่มศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) วงเงิน 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินสามารถจัดสรรวงเงินในแต่ละกลุ่มได้ตามความเหมาะสม
วงเงินสินเชื่อต่อราย : ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท
ระยะเวลากู้ยืม : ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
ระยะเวลาการดำเนินงาน : ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อรวมในโครงการจะหมด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน โดยให้ธนาคารออมสินเบิกจ่ายสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2569
การค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.
1 วงเงินค้ำประกันรวม 5,000 ล้านบาท
2 วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาท ทั้งนี้ อยู่ภายใต้ข้อกำหนดหลักเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อต่อรายและต่อกลุ่มลูกค้า (Single Guarantee Limit: SGL) ของ บสย. และการยื่นขอให้ค้ำประกันขั้นต่ำครั้งละไม่น้อยกว่า 200,000 บาท
3 อายุการค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี
4 ระยะเวลารับคำขอค้ำประกันนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568
5 ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อตลอดอายุการค้ำประกัน โดยรัฐบาลจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs ในปีที่ 1 - 2 อัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี และปีที่ 3 - 4 อัตราร้อยละ 1 ต่อปี
6 บสย. จะจ่ายค่าประกันชดเชยตลอดการค้ำประกันสินเชื่อไม่เกินค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อที่ได้รับจากผู้ประกอบการ SMEs รวมกับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล รวมทั้งโครงการไม่เกินร้อยละ 30
กรอบวงเงินงบประมาณ : รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,150 ล้านบาท ประกอบด้วย
1 ธนาคารออมสินขอรับงบประมาณชดเชยจากรัฐบาล เพื่อชดเชยต้นทุนเงินในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 250 ล้านบาท (วงเงิน 5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 2.5 ต่อปี * 2 ปี) โดยธนาคารออมสินจะทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป
2 บสย. ขอรับงบประมาณชดเชยจากรัฐบาล รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 900 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) ชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยเป็นเงินไม่เกิน 625 ล้านบาท (5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 12.5) และ 2) ชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เป็นเงินไม่เกิน 275 ล้านบาท (5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 1 * 2 ปี + 5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 1.75 * 2 ปี)
ประโยชน์
1 สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNTE THAILAND ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอ สำหรับการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นเป็นกลไกในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม
2 มีผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,660 ราย (วงเงินสินเชื่อเฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อราย)
3 ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (1 เท่า)