ไม่พบผลการค้นหา
ประสบการณ์ดูคอนเสิร์ตวงญี่ปุ่นที่ศิลปินไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ของ 'คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง'

คุณผู้อ่านรู้จักวงญี่ปุ่นที่ชื่อ GReeeeN (กรีน) กันมั้ยครับ? บางคนอาจจะไม่คุ้นนัก แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนต้องเคยได้ยินเพลงชื่อ Kiseki ของวงนี้แน่นอน ลองไปฟังกันเลยครับ รับรองว่าร้องอ๋อแน่นอน

GReeeeN ถือเป็นศิลปินที่ดังมากๆ ของญี่ปุ่น แนวเพลงเป็นป๊อปร็อคผสมกับฮิปฮ็อป สมาชิกประกอบด้วยหนุ่มๆ สี่คน นั่นคือ ฮิเดะ, นาวิ, คุนิ และโซ

แต่ถึงวง GReeeeN จะดังมาก วงนี้ก็มีเรื่องเหวอๆ คัลต์ๆ เพียบเช่นกัน กล่าวคือทั้งสี่คนเป็นทันตแพทย์ เพื่อไม่ให้การเป็นนักร้องกระทบกับวิชาชีพ พวกเขาเลยตัดสินใจไม่เปิดเผยตัวตน ไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้าตาของพวกเขา ไม่เคยไปออกรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น หลายคนถึงขั้นสงสัยว่าวงนี้มันมีตัวตนจริงหรือเปล่า ซึ่งความเป็นมาของวงนี้สามารถดูได้ในหนังเรื่อง Kiseki: Sobito of That Day (2017) เขาทำไว้ดีทีเดียว

แม้ว่าวง GReeeeN จะไม่ยอมออกสื่อ แต่พวกเขามีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองครับ แถมเป็นทัวร์แบบทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย ความเหวอของคอนเสิร์ตวงนี้คือศิลปินตัวจริงไม่มาในงาน! อ้าว แล้วมันจะเป็นคอนเสิร์ตได้ยังไง!? คำตอบคือ สี่หนุ่มจะมาในรูปแบบซีจีบ้าง แอนิเมชั่นบ้าง หรือในอีเวนต์พิเศษทั้งสี่คนอาจจะปรากฏบนเวที แต่เป็นเงาดำๆ อยู่หลังม่านซะงั้น

ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาผมไปท่องเที่ยวภูมิภาคฮอกไกโด แล้วพบว่ามีคอนเสิร์ต GReeeeN ที่เมืองซัปโปโรพอดี แถมบัตรยังเหลือด้วย ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าจะไปดูดีหรือเปล่า ทำไมฉันต้องจ่ายเงินตั้งสองพันกว่าบาทเพื่อไปดูซีจีของศิลปินล่ะเนี่ย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอ ‘ลองของ’ หน่อยแล้วกัน เลยจองบัตรไปแบบงงๆ


poster.jpg

โปสเตอร์ทัวร์ครั้งนี้ เป็นธีม ‘ทะลุโลกท่อมหัศจรรย์’ อะไรสักอย่าง

ตัดภาพมาวันงาน คนเยอะแยะมากมายครับ ไอ้ผมก็ดันไปสาย ได้อยู่หลังสุดของฮอลล์แบบติดประตูทางเข้าเลย (ทั้งงานเป็นบัตรยืน) โชว์เริ่มตรงเวลาเป๊ะตามสไตล์ญี่ปุ่น สมาชิกวง GReeeeN ทั้งสี่คนปรากฏตัวเป็นซีจีฉายขึ้นจอ แล้วก็มีจอที่ฉายวิชวลกราฟิกและซับไตเติ้ลเนื้อเพลงตลอดงาน ส่วนบรรดาแดนเซอร์นี่จะเป็นคนจริงๆ ออกมาเต้นครับ ทำให้งานมีส่วนผสมของทั้งความเป็นดิจิทัลและความเป็นเนื้อหนังแท้จริง


03.JPG

สารภาพว่าผมกะไปเบื่อกับคอนเสิร์ตนี้เต็มที่ แต่กลายเป็นว่าเพลิดเพลินกับงานทีเดียว การนำเสนอสมาชิกทั้งสี่ในแบบซีจีไม่ได้ทำแบบขอไปที แต่เขาใช้เทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ ทำให้การเคลื่อนไหวของทั้งสี่คนเหมือนคนจริงมากๆ (แต่ยังคงไม่เผยหน้า มาเป็นหน้าขาวๆ แบบหุ่นเสื้อเลย แอบหลอน) แถมบางช่วงด้วยการเล่นกับไลท์ติ้งและกราฟิก ก็ทำให้สี่หนุ่มซีจีเหมือนเป็น ‘คน’ จริงๆ บนเวทีได้

อีกช่วงที่ผู้เขียนเตรียมใจไปเซ็งคือช่วงพูดคุยกับคนดูหรือ MC ซึ่งศิลปินญี่ปุ่นมักมีช่วง MC ที่ยาวนานมาก บางรายทอล์กโชว์ไปร่วมครึ่งชั่วโมง แต่โชคดีว่า GReeeeN เขาไม่ได้แค่พูดเฉยๆ แต่สร้างสตอรี่ขึ้นมา เป็นเกมตะลุยด่านที่ล้อกับเกม Mario (คอนเสิร์ตปีนี้เลยมีชื่อว่า ‘โลกแห่งท่อ’ นั่นเอง) ผมเองที่เคยเล่นเกมมาริโอมาก่อนก็เลยฮาไปกับทุกมุก ไม่ว่าจะเก็บเห็ด เหยียบเต่า ช่วยเจ้าหญิง ฯลฯ เรียกว่าขำแนบเนียนไปกับชาวญี่ปุ่นได้

แต่ส่วนที่ดีที่สุด (ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจแฟนคลับส่วนใหญ่) คือ GReeeeN เขาจะไม่ร้องเพลงเต็มๆ ครับ แต่ส่วนใหญ่จะร้องเป็นเมดเลย์ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ทำให้คอนเสิร์ตสนุกและกระชับ แม้จะร้องถึง 25 เพลง แถมมีช่วง MC ไปราว 5-6 ครั้ง แต่สิริรวมคอนเสิร์ตจบลงในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ


02.JPG

เอาเข้าจริงแล้วเรื่องของคอนเสิร์ตที่ศิลปินปรากฏตัวในสภาวะเสมือนจริง (Virtual) ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรแล้วในยุคนี้ อย่างที่เจอกันบ่อยคือการใช้โฮโลแกรมทำให้ศิลปินที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาแสดงบนเวทีได้ ไม่ว่าจะ ฮิเดะ X Japan, เติ้งลี่จวิน, บิ๊ก ดีทูบี หรือเมื่อปีที่แล้ว รอย ออร์บิสัน เจ้าของเพลงดัง Oh, Pretty Woman ที่จากโลกนี้ไปตั้งแต่ปี 1988 ก็มี Hologram Tour ทั่วทั้งอเมริกาและยุโรป เรื่องทำนองนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมบันเทิงไปแล้ว

ส่วนกรณีของ GReeeeN ผมคิดว่าแฟนเพลงยอมมาดูพวกเขาในแบบซีจีก็เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่แฟนเพลงจะ ‘เชื่อมโยง’ หรือ ‘ใกล้ชิด’ กับศิลปินได้ ประมาณว่าถ้าคิดจะเป็นแฟนคลับวงนี้ก็ต้องรับเงื่อนไขนี้ให้ได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายคอนเสิร์ตก็มีเซอร์ไพรส์ด้วยการปล่อยกระดาษรูปหัวใจให้แฟนเพลงแย่งกันคว้า นี่แหละหนา มนุษย์เราถึงจะ go digital กันแค่ไหน ก็ยังอยากได้อะไรที่ ‘จับต้อง’ ได้อยู่ดี 


04.JPG