แม้หลายคนจะมองว่า โควิด-19 คล้ายกับโรคซาร์ส แต่นักวิจัยจากศูนย์โรคระบาดแห่งชาติสิงคโปร์พบว่า โควิด-19 มีลักษณะคล้ายกับ H1N1 หรือไข้หวัดหมูมากกว่า เพราะโควิด-19 คล้ายกับไข้หวัด และจะแพร่ระบาดในช่วงที่อาการยังไม่รุนแรง เช่น ไอ จาม ซึ่งจะทำให้ติดต่อได้อย่างรวดเร็ว และอาการที่ไม่รุนแรงพวกนี้มักทำให้เราไม่ค่อยระวังตัว ไม่พักรักษาตัวในบ้าน ยังออกไปเที่ยวหรือทำงาน ซึ่งทำให้เชื้อแพร่ระบาดไปหาคนอื่นได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ดร.ลง โฮนัม ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจาก โรงพยาบาลเมานท์เอลิซาเบธโนเวนา กล่าวว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะค่อยๆ ซาลงไปเอง คล้ายกับเชื้อไวรัส H1N1 เมื่อปี 2009 ที่ทำให้คนเสียชีวิตที่เริ่มแพร่ระบาดในเม็กซิโก และทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกถึง 18,000 ราย แต่สุดท้ายแล้ว ทุกคนก็จะเห็นว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้เป็นเพียงไวรัสธรรมดา แต่หากไปเม็กซิโกตอนนี้ เชื้อ H1N1 ก็ยังแพร่ระบาดอยู่ แต่ไม่ได้ทำให้คนเสียชีวิตมากเท่าเดิมแล้ว
ดร.ลง โฮนัมเชื่อว่า ไวรัสโควิด-19 มีลักษณะเดียวกัน โดยสาเหตุที่ทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก เป็นเพราะความรู้ด้านระบาดวิทยาหรือเทคโนโลยียังไม่เพียงพอจะระบุสาเหตุของการเสียชีวิตได้ แต่ความรุนแรงจะลดลงไปในเวลาต่อมา
ด้านศาสตราจารย์ ทิกกี พัง อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษชาวต่างประเทศ ของสถาบันนโยบายสาธารณะลีกวนยูของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ก็มีความเห็นคล้ายกันว่า การระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มจะคงที่ และค่อยๆ หายไปจากความสนใจของสาธารณะ ถือเป็นแบบแผนที่เป็นมาทุกครั้งเมื่อมีโรคระบาด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะไวรัสจะอ่อนกำลังลงไปเอง และเชื้อจะกลายพันธุ์ให้ตัวเองไม่ฆ่าโฮสต์จนเสียชีวิต เพราะหากทุกคนเสียชีวิตกันหมด ตัวไวรัสเองก็จะตายไปด้วย แต่หากเชื้อไม่รุนแรงมาก ก็จะทำให้มันแพร่กระจายออกไปได้กว้างขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยจาก China National Biotec Group พบว่า เลือดของผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแอนติบอดีที่ฆ่าไวรัสตัวนี้อยู่ในพลาสมา และจากการทดลองพบว่า สามารถดึงแอนติบอดีมาเป็นเซรุ่มฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทีมนักวิจัยเตรียมจะนำพลาสมานี้ใช้ในการรักษาต่อไป หลังจากมีการทดสอบความปลอดภัยทางชีวภาพและการทำลายไวรัสแล้ว
ที่มา : Channel News Asia, SCMP