วันที่ 14 ม.ค. 2566 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งถึงกรณีจดหมายเปิดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ตัดสินใจไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ภายในพรรคพลังประชารัฐมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงจดหมายเปิดใจดังกล่าวพอสมควร เนื่องจากไม่เชื่อว่า ข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร ที่โดยปกติจะพยายามยืนยันในความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และพี่น้อง 3 ป. แม้ในช่วงที่มีกระแสข่าวขัดแย้งกันก็ตาม จึงคาดว่าเป็นฝีมือของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใหม่ๆที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ มากกว่าจะเป็นทีมงานเก่าที่อยู่กับพรรค และทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร มาก่อน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับแฟนเพจเฟซบุ๊ก “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่ลงข้อความกระทบไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ นั้นอยู่ในความดูแลของทีมประชาสัมพันธ์พรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมา ก็ผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับผลงานของ พล.อ.ประวิตร เท่านั้น เพิ่งมีการโพสต์เกี่ยวกับประเด็นการเมืองเป็นครั้งแรก จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมาจากทีม อันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี หรือ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะที่ผ่านมา อันวาร์ และ นิพิฏฐ์ มีทัศนคติอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน รวมทั้งมีเป้าหมายให้การลดความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีคะแนนนิยมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของทั้งคู่ด้วย
“ก่อนจะเผยแพร่ข้อความใดๆ ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ต้องมีการขออนุมัติจาก พล.อ.ประวิตร ทุกครั้ง ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร จะมอบให้ ฝ่าย เสธ.เป็นผู้พิจารณา แต่สำหรับจดหมายเปิดใจดังกล่าวมีฝ่าย เสธ.ของ พล.อ.ประวิตร ทักท้วงว่าจะผิดแนวทางชายชาติทหาร ที่ปลูกฝังกันว่า ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน จึงได้แสดงความไม่เห็นด้วย แต่สุดท้าย พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ทัดทาน และปล่อยให้เผยแพร่ จนเป็นประเด็นขึ้นมา” แหล่งข่าว ระบุ
ทั้งนี้ในส่วนของทีมงานด้านประชาสัมพันธ์ของพล.อ.ประวิตร ที่ที่งในส่วนของฝ่ายการเมืองที่มีหลายกลุ่ม และยังมีในส่วนของฝ่าย เสธ.ที่มีทั้งอดีตนายทหาร และนายทหารในราชการช่วยดูแลอยู่ ส่งผลให้ไม่สามารถกำกีลการสื่อสารในทิศทางเดียวกันได้ทั้งหมด เห็นได้ชัดจากกรณีจดหมายเปิดใจที่เผยแพร่ผ่านแฟนเพจ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่าย เสธ.ของ พล.อ.ประวิตร ออกมาระบุว่า เพจปลอม ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงในภายหลังเมื่อได้ตรวจสอบแล้วว่าออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากทีมฝ่ายการเมืองไม่ได้แจ้งมาก่อน และเพจดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความดูของฝ่าย เสธ.
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐ มีการแข่งขันในระดับแกนนำพรรคค่อนข้างสูง เพราะมีทีมฝ่ายการเมืองหลายกลุ่มที่พยายามสร้างผลงานทั้งด้านการทำพื้นที่ และด้านการประชาสัมพันธ์งานของพรรคให้เข้าตา พล.อ.ประวิตร เพื่อให้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานมากขึ้น ซึ่งก็จะได้รับงบประมาณตามภารกิจเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะงบประมาณด้านประชาสัมพันธ์ ที่ตามปกติพรรคพลังประชารัฐตั้งงบประมาณไว้ค่อนข้างสูง และเชื่อว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จะต้องใช้งบประมาณมากขึ้นหลายเท่าตัว จึงทำให้ทุกกลุ่มการต้องการแย่งชิงงบประมาณดังกล่าวมาบริหารจัดการ เพราะถือเป็นงบประมาณในทางลับที่ตรวจสอบได้ยาก
ข่าวแจ้งว่า เดิมทีผู้ที่ดูแลงานด้านประชาสัมพันธ์เป็นหลักให้กับพรรค เป็นทีมของของ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ที่ดูแลในส่วนกลาง รวมถึง วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูแลในระดับพื้นที่ แต่ปรากฎว่า ผลงานไม่เข้าเป้าเท่าที่ควร ทำให้กลุ่มอื่นมองว่า เป็นจุดอ่อน จึงเสนอให้พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนผู้รับผิดชอบใหม่ โดยมีทีมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ที่สนับสนุนในส่วนของสื่อโซเชียลมีเดียมาระยะหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีทีมของ อันวาร์ และนิพิฏฐ์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวมาร่วมงานกับพรรคได้ร่วมเสนอแผนการประชาสัมพันธ์พรรคให้ พล.อ.ประวิตรรับฟัง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ได้เปิดโอกาสให้ อันวาร์ และ นิพิฏฐ์ ได้แสดงผลงานก่อนจะตัดสินใจอีกครั้ง