ในอีกทางหนึ่ง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุในที่ประชุมว่าขณะนี้ไม่มีเวลาที่ชาติต่างๆ จะมีบทสนทนากับทางรัสเซีย บนประเด็นการรุกรานยูเครนของรัสเซียเอง ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยเป็นการรวมตัวกันของผู้นำ เจ้าหน้าที่ทางการ และนักการทูต เพื่อมุ่งความสนใจไปยังประเด็นทรานส์แอตแลนติก
ในที่ประชุมยังมี กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัญฯ เข้าร่วมองค์ประชุมคณะใหญ่ พร้อมกันกับหัวหน้าคณะรัฐบาลจาก 30 ชาติยุโรปอีกด้วย
โชลซ์ได้ระบุในที่ประชุมว่า มันจะเป็น “การฉลาดในการเตรียมตัวเพื่อสงครามที่ยาวนาน” และแสดงให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเห็นว่า เยอรมนี และชาติพันธมิตรจะไม่มีวันยอมแพ้ในประเด็นยูเครน
ทั้งนี้ ทางการยูเครนพยายามเรียกร้องชาติตะวันตก เพื่อการส่งมอบความช่วยเหลือเป็นอาวุธหนักและรถถังประจัญบานอย่างเร่งด่วน มาเพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่ของตัวเองกลับมาจากรัสเซียได้อีกครั้ง
เยอรมนีตกลงที่จะส่งมอบรถถังเสือดาวให้แก่ยูเครนเมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากต้องประสบกับแรงกดดันอย่างหนัก ท่ามกลางบรรยากาศของความลังเลใจจากทางเยอรมนี ทั้งนี้ การอนุมัติให้มีการส่งรถถังเสือดาวซึ่งถูกผลิตโดยเยอรมนี ไปยังยูเครนได้ จะเปิดทางให้ชาติอื่นๆ สามารถจัดส่งรถถังเสือดดาวให้แก่ยูเครนตามมาด้วยเช่นกัน
มาครงกล่าวว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงชี้ขาดสงคราม พร้อมกล่าวเสริมว่าชาติพันธมิตรจำเป็นจะต้อง “เพิ่มการสนับสนุนของเรา” ให้แก่ยูเครน เพื่อที่จะสามารถเปิดฉากการต่อต้านรัสเซียได้ ก่อนที่ยูเครนจะสามารถเข้าสู่การเจรจาในฐานะที่มีน้ำหนักและแข็งขันกว่ารัสเซียในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เข้าร่วมการประชุมกับผู้นำอื่นๆ ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ โดยเซเลนสกีเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเร่งจัดหาอาวุธมาแก่ยูเครน พร้อมเตือนว่ายูเครนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชัยชนะเหนือรัสเซีย ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้ไม่มีการเชิญเจ้าหน้าที่จากทางการรัสเซียแต่อย่างใด
วาระการประชุมอันกว้างในครั้งนี้ มีตั้งแต่ประเด็นจีนไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่การประชุมจะเปิดโอกาสให้ชาติพันธมิตรของยูเครน สามารถประเมินการรุกรานของรัสเซียในช่วงเกือบปี โดยถึงแม้จะมีคำพูดของผู้นำชาติต่างๆ ในการแสดงการสนับสนุนยูเครน แต่ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับขอบเขตและระยะเวลาของการแก้ปัญหาจากชาติตะวันตก เมื่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากภาวะสงครามมีเพิ่มมากขึ้น
ที่มา: