วันที่ 5 ก.ค. สำนักงานอัยการสูงสุด เผยแพร่เอกสารข่าว ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีน โมเดอร์นา (Moderna) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้แถลงข้อเท็จจริงเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. ว่าไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดส่งร่างสัญญาการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาตรวจร่าง และต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 14.00 น. องค์การเภสัชกรรมจึงได้ส่งร่างจัดซื้อวัดซีนโมเดอร์นา (Moderna) ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างสัญญา ภายหลังจากสำนักงานอัยการสูงสุดได้แถลงข้อเท็จจริงแล้ว นั้น
วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งรัดพิจารณาตรวจร่างสัญญาให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้มอบหมายให้คณะทำงานสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โดยนารี ตัณฑเสถียร อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ดำเนินการโดยเร่งด่วนจนการพิจารณาตรวจร่างสัญญาแล้วเสร็จในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
ในวันเปิดทำการในวันนี้ สำนักงานอัยการสูงสุด จึงส่งคืนร่างสัญญาให้องค์การเภสัชกรรมไปดำเนินการต่อไป
สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตระหนักในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่สังคมไทยเรากำลังเผชิญอยู่และเห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนในสังคมจะต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวให้ล่วงพ้นไป
ผอ.องค์การเภสัชกรรม ยันได้ 'โมเดอร์นา' 5 ล้านโดส
วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ยืนยันว่าวัคซีนที่จะรับจากบริษัทซิลลิค ฟาร์มา ตัวแทนของโมเดอร์นาในช่วงแรกไตรมาส 4 ปี 64 และไตรมาส 1 ปี 65 ได้เพียง 5 ล้านโดสเท่านั้น ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวว่ามีการสั่งจองวัคซีนดังกล่าวถึง 9 ล้านโดสนั้น เป็นจำนวนทั้งหมดที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้สำรวจความต้องการหรือมีการจองอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่จะได้รับจากบริษัทซิลลิคอย่างเป็นทางการในช่วงแรกนี้ 5 ล้านโดส เป็นจำนวนที่จะได้รับจากซิลลิค
ส่วนอีก 4 ล้านโดส เป็นความต้องการที่เกินจำนวนกว่าวัคซีนที่จะได้รับ ซึ่งในส่วนความต้องการที่เกินเพิ่มมานี้ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบร่วมกันไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยองค์การฯ ได้ประสานการจองวัคซีนจำนวนที่เกินมานี้สำหรับรอบการผลิตในปี 2565 ไว้กับบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัดเพิ่มเติมแล้ว รอการยืนยันจำนวนที่จะได้รับการจัดสรรที่ชัดเจนจากบริษัทต่อไป
สำหรับแนวทางการจองวัคซีนของแต่โรงพยาบาลนั้นได้มีแนวทางร่วมกันว่า ให้แต่ละโรงพยาบาลรับการจองวัคซีนจากประชาชนที่ประสงค์จะฉีดจริง ๆ มีการแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน และไม่มีการเก็งกำไรจากการให้บริการนี้ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายภายใต้ข้อจำกัดของจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา
“ขอย้ำว่า การดำเนินการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นาทุกขั้นตอนเป็นไปตามแผนที่ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน แม้มีบางรายละเอียดต้องดำเนินการเพิ่ม การดำเนินงานยังเป็นไปตามกรอบเวลาของแผน อย่างไรก็ตาม ต้องข้อเรียนย้ำว่า บริษัทซิลลิคยังคงยืนยันว่าจะส่งวัคซีนได้ตามกำหนดเดิมคือ ไตรมาส 4 ปี 64 และไตรมาส 1 ปี 65 และขอให้ติดตามข่าวสารความจริงเรื่องวัคซีนจาก 3 องค์กรหลัก คือ องค์การเภสัชกรรม สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทซิลลิค เท่านั้น” นพ.วิฑูรย์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง