ไม่พบผลการค้นหา
นักวิจัยชี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเที่ยวกันเองในประเทศเอาไม่อยู่ ย้ำต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน-ไม่จำเป็นต้องกักตัว พร้อมเสนอ 4 มาตรการควบคุมโรคระบาด

‘นิพนธ์ พัวพงศกร’ ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการศึกษาการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ และนโยบายเกษตรสมัยใหม่ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ เสนอทางออกจากวิกฤตโรคระบาดที่ส่งผลร้ายต่อสภาพเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ผ่านการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนแบบไม่ต้องกักตัว หรือกักตัวระยะสั้นระหว่างรอผลตรวจ

นิพนธ์ ทีดีอาร์ไอ
  • ‘นิพนธ์ พัวพงศกร’ ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการศึกษาการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ และนโยบายเกษตรสมัยใหม่ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

พร้อมกับระบุว่า จากข้อมูลระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า แรงงานถึง 19.96 ล้านคน หรือคิดเป็น 52.6% ของผู้มีงานทำทั้งสิ้น 37.93 ล้านคน ได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพจากโควิด-19 โดยภาคบริการมีสัดส่วนแรงงานได้รับผลกระทบสูงถึง 70.2% รองลงมาคือภาคการผลิตและภาคเกษตรที่มีแรงงานเดือดร้อนราว 65.3% และ 23.9% จากแรงงานทั้งหมดในอุตสากหรรมนั้นๆ ตามลำดับ 

ข้อมูลยังชี้เพิ่มว่า กลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบ กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้มีการศึกษาไม่เกินชั้นประถมถึง 4 ล้านคน รองลงมาคือกลุ่มมัธยมต้นและมัธยมปลายที่สัดส่วน 2.3 และ 2.9 ล้านคน ตามลำดับ 

เมื่อผนวกข้อมูลข้างต้นรวมกับการศึกษาของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ พบว่า ก่อนเกิดโควิด-19 คนไทยเกือบหนึ่งในสามมีหนี้สิน และมูลค่าหนี้ยังสูงถึงประมาณ 1.28 แสนบาท/ราย 

นิพนธ์ ชี้ว่า หากยังปล่อยให้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปเช่นที่เป็นมา ความยากจนจะพุ่งสูงขึ้น ขณะที่เด็กและเยาวชนจำนวนมากอาจต้องออกจากระบบการศึกษา จนกลายไปเป็นวิกฤตทั้งฝั่งเศรษฐกิจและสังคมในที่สุด

ด้วยเหตุนี้ นิพนธ์ นำเสนอว่า การดึงรายได้เข้าประเทศผ่านนักท่องเที่ยวจีนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของรัฐบาลในปัจจุบัน เพราะการหวังพึ่งโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศผ่านคนไทยด้วยกันไม่เพียงพอชดเชยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่หายไป โดยในปี 2562 ไทยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงเกือบแตะ 40 ล้านคน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศยังคิดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งจากนักท่องเที่ยวเท่านั้น 

สาเหตุที่นิพนธ์เสนอว่ามาตรการกักตัวของนักท่องเที่ยวจีนอาจไม่ต้องเข้มงวดเหมือนที่ผ่านมา เป็นเพราะรัฐบาลจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้คนจีนสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างเสรี 

เมื่ออนุญาตเข้าไทยมาแล้ว นักท่องเที่ยวเหล่านี้จะช่วยเข้าไปเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการร้านค้าน้อยใหญ่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริการทั้งระบบ ส่งผลให้เอสเอ็มอีเหล่านั้นมีรายได้ ขณะที่รัฐบาลไม่ต้องเสียเงินไปกับมาตรการพักชำระหนี้ หรือมาตรการเพิ่มเงินทุนต่างๆ 


ไม่กักตัวแต่เข้มงวด 
ประยุทธ์ โควิด 26102842000000.jpg

แม้จะเสนอให้มีการผ่อนปรนมาตรการกักตัวในประเทศ แต่นิพนธ์ชี้ว่าการสร้างช่องโหว่ให้เชื้อไวรัสกลับมาระบาดอีกรอบไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ พร้อมเสนอ 4 มาตรการคุมเข้ม แต่ยังเอื้อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นได้ คือ

1. ตรวจเชื้อไวรัสในนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดก่อนเข้าประเทศ วันที่เดินทางถึง และตรวจซ้ำหลังเข้ามาอยู่ในประเทศเกิน 5-6 วัน 

2. ลงทุนในระบบเทคโนโลยีติดตามตัวนักท่องเที่ยวตลอดเวลา (แบบเวลาจริง) เพื่อเอื้อให้เกิดประโยชน์ในการติดตามตัวในกรณีฉุกเฉินต่างๆ 

3. ลงทุนเพิ่มในระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะจำนวนเตียงคนป่วย ห้องไอซียู โรงพยาบาล และศูนย์บริการตรวจวัดเชื้อโควิด-19 เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ หากมีการแพร่ระบาดครั้งต่อไป

4. สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพเรื่องมาตรการป้องกันความเสี่ยง รวมไปถึงการขอความร่วมมือจากประชาชนในกรณีต่างๆ  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;