คณะกรรมาธิการทหาร นำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ, นายนิรามาน สุไลมาน รองประธานคณะกรรมาธิการ, นายอภิชา เลิศพชรกมล รองประธานคณะกรรมาธิการ, นายเกษมสันต์ มีทิพย์ โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทย, พร้อมอนุกรรมาธิการ พลเอก พลัฎฐ์ เพ็ชรสดศิลป์, พลเอก อรพัฒน์ สุกไสว, พลตรี อรรถ สิงหัษฐิต, นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท และคณะ เดินทางไปพบชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเวนคืนพื้นที่บ้านฝายมอญ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ข้อพิพาทกันระหว่างชาวบ้านและทหาร ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก โดยได้รับการร้องเรียนจาก นายศิรสิทธิ์ ผ่านกรรมาธิการการทหาร
หลังจากลงพื้นที่ได้รับข้อร้องเรียนจากชาวบ้านดังนี้ ชาวบ้านได้ถูกเวนคืนพื้นที่เพื่อนำไปปลูกหญ้าให้สหกรณ์โคนม, ทหารไม่ได้มีการเจรจาก่อน, มีชาวบ้านถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกหลายราย, มีนายทหารยศจ่าเข้ามายึดที่ชาวบ้านแล้วนำไปให้นายทุน, ชาวบ้านที่อื่นเข้ามาทำกินได้โดยการเช่าที่ทหารแต่ชาวบ้านหนองสาหร่ายทำกินไม่ได้ ซึ่งการเวณคืนพื้นที่ ทหารในพื้นที่อ้างว่าเป็นภารกิจของหน่วย ต้องใช้สำหรับการฝึก และทำสหรกรณ์โคนม มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 60 ราย ที่มาแจ้งความจำนงกับกรรมาธิการ และมีบางส่วนกลัวถูกดำเนินคดี จึงไม่มาร้องเรียน แต่มาร่วมรับฟังโดยชาวบ้านมีข้อเรียกร้องต่อกรรมาธิการ 4 ข้อดังนี้ 1.ขอสิทธิ์ที่ทำดินทำกินเดิม โดยเช่าที่กับทางกรมธนารักษ์ 2.ขอสิทธิ์เช่าที่ดินถึงรุ่นลูกหลาน 3.พิจารณาชาวบ้านที่เดือดร้อน 60 ราย เป็นกรณีแรกและที่ไม่เดือดร้อนพิจารณาเป็นกรณีที่สอง 4.ขอเช่าที่ดินไว้สำหรับทำกิน 5-20 ไร่
ขณะที่กรรมาธิการลงพื้นที่บริเวณข้อพิพาท พบมีกลุ่มนายทุนมาใช้พื้นที่ปลูกป่ากว่า 200 ไร่ เมื่อเข้าไปพูดคุยกับคนที่มาเช่าที่ทหาร พบว่า ทหารได้ให้คนนอกมาเช่าที่ดินทำกินจริง โดยทหารเช่าที่ คนนอกมาปลูกผัก เมื่อได้ผลผลิต จะแบ่งผลประโยชน์กันร้อยละ 40 ให้ทหาร และร้อยละ 60 ให้นายทุน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า คณกรรมาธิการทหาร เราต้องการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ที่นี่ เราต้องแก้ทั้งระบบทั่วประเทศ โดยจะขอแบ่งเป็น ระยะสั้นและระยะยาว เบื้องต้นขอแก้ให้ชาวบ้านที่นี่ก่อนเพราะ 31 มกราคมนี้ ชาวบ้านจะต้องคืนที่ดินทำให้ทหาร กรรมาธิการทหาร จะลงพื้นที่ข้อพิพาทให้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยในเดือนหน้าจะลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี
ด้านนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน โฆษกคณะกรรมาธิการ ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า กรรมาธิการชุดแรกนี้มาลงพื้นที่ที่นี่เป็นที่แรก พบปัญหาเดียวกันกับกาญจนบุรี ประชาชนไม่ต้องการโฉนดแต่อยากทำกินอย่างถูกต้อง ไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็น ผู้บุกรุก
"เตรียมผลักดันสวนผึ้งโมเดล เช่าที่มีเอกสิทธิ์มีกรอบประชาชนสามารถทำเชิงพาณิช เชิงเกษตร ได้ และสามารถนำไปทำธุรกรรมได้" นายยศวัฒน์ กล่าว
ช่วงบ่าย กรรมาธิการได้นำข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทหาร กส.ทบ., กบ.ทบ. ณ ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก โดยได้ข้อสรุปกับทหารดังนี้ กรณีมีจ่ายึดที่ชาวบ้านและนำไปให้นายทุน ได้มีการลงโทษแล้ว และกำลังจะลงโทษทางวินัย ส่วนกรณีที่ชาวบ้านจะถูกไล่ที่ ในวันที่ 31 มกราคม จะยืดเวลาขยายออกไปอีก
อีกทั้งได้เชิญกรมธนารักษ์เข้ามาร่วมพูดคุยด้วย โดยการแก้ปัญหาต่อไปจะนำร่อง จัดระเบียบที่พักอาศัย จัดโซนการดำเนินการ เริ่มที่ที่พักอาศัยก่อน รูปแบบจะเป็นสหกรณ์ ไม่ใช่รายบุคคล จากนั้นจะจัดโซนที่ดินทำกิน ใช้แนวทางการดำเนินงานที่ได้รับการรับรอง จากคู่มือที่ดินทำกิน สำนักนโยบายแห่งชาติ โดยให้เกษตรกร 15 ไร่ต่อ 1 ครัวเรือน
ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวว่าการแก้ปัญหาระยะยาว ทางกรรมาธิการจะต้องทำความเข้าใจกับราษฏร เช่น เรื่องการโอน ซื้อขาย โอนสิทธิ์ โดยมิชอบของราษฏร ด้วย