20 มี.ค. 2561 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบประมาณกลางปี 2560 จำนวน 257 ล้านบาท เพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่องรูดบัตรอีดีซี เพิ่มเติมในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 20,000 เครื่อง โดยเป็นเครื่องของร้านธงฟ้าประชารัฐ 10,000 เครื่อง และร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้าน 10,000 เครื่อง ซึ่งที่ผ่านมาที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติการติดตั้งเครื่องรูดบัตรอีดีซีไปแล้วทั้งสิ้น 26,321 เครื่อง มีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วมีทั้งสิ้น 11,469,185 ราย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งพบว่ามีอุปสรรคทางเทคนิค และตัวบุคคล โดยมีการวางเครื่องรูดบัตรอีดีซี ล่าช้าในบางพื้นที่ และดำเนินการแก้ไขปัญหาอินเตอร์ไม่เสถียรซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้เร่งแก้ไขปัญหาร่วมกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อทำการขยายสัญญาณ
ส่วนปัญหาด้านจริยธรรม พบว่ามีร้านธงฟ้าประชารัฐ ไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด เช่น งดรับการชำระสินค้าเมื่อช่วงปลายปี 2560 เนื่องจากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท หรือ มีรายได้ที่เกินเกณฑ์ภาษี ไม่มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้า ถือโอกาสขึ้นราคาสินค้า และมีการจัดชุดราคาสินค้า จำกัดสิทธิการเลือกซื้อสินค้า และพบว่าบางร้านไม่มีการวางเครื่องรูดบัตรอีดีซี แต่ให้มีสิทธิซื้อสินค้าโดยการยึดบัตรไว้ และใช้บัตรแลกเป็นเงินสด โดยทางร้านค้าหักเงินไว้บางส่วน นอกจากนี้ยังพบว่ามีร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้ม นำสินค้าอื่นมาขาย โดยหักวงเงินในบัตร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเรียกร้านค้ามาตักเตือน และปลดรายชื่อออกจากร้านค้าสวัสดิการ และให้คลังจังหวัดเก็บเครื่องรูดบัตรอีดีซีคืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังมีมติเห็นชอบข้อเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุมัติวงเงินเพื่อจัดสรร 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ โดยใช้เงินกองทุนพัฒนายางพาราวงเงิน 1,000 ล้านบาทเพื่อดำเนินการหมุนเวียนรับซื้อยางตามมติคณะกรรมการยางพาราแห่งประเทศไทย
โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นค่าเบี้ยประกันภัยและค่าบริหารโครงการ และโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คสช. ลุย 'แก้จน เฟส 2' ไม่ฮอต ผู้ถือบัตร 2 ล้านรายเมินร่วมโครงการ