ไม่พบผลการค้นหา
ป.ป.ช.มีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งยึดทรัพย์ของอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ กว่า 896 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน

นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. และในฐานะโฆษกคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลมีความสั่งให้ทรัพย์สิน ของพันตรีวีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ รมว.พาณิชย์ รวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท ที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 80(1) รวมทั้งขอให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อจัดให้มีวิธีคุ้มครอง ตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (1) และหากไม่สามารถบังคับคดีเอาทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้นั้น ขอให้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอืนของผู้ถูกกล่าวหาภายในอายุความ 10 ปี 

สำหรับทรัพย์มูลค่ากว่า 896 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินฝากธนาคารในชื่อ พันตรีวีระวุฒิ และอดีตคู่สมรส บุตรเครือญาติและคนใกล้ชิดจำนวน 53 บัญชี เป็นเงิน 567,715,461.37บาท เงินลงทุนในชื่อพันตรีวีระวุฒิ และอดีตคู่สมรส บุตรเครือญาติและคนใกล้ชิดจำนวน 6 แห่ง มูลค่า 260,142,651 บาท ที่ดินในชื่ออดีตคู่สมรส บุตรและเครือญาติ 12 แปลง ในพื้นที่ กทม.มูลค่า 57,066,828 บาท ห้องชุดในชื้อของเครือญาติ จำนวน 1 ห้อง มูลค่า 6,200,000บาท และรถยนต์จำนวน 4 คัน ในชื้อเครือญาติมูลค่า 6,309,000บาท 

อย่างไรก็ตาม พันตรีวีระวุฒิ ถือว่าเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหาร่วมทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ โดยมีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของรัฐบาล เข้ามาทำสัญญาชื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับรัฐบาลไทย 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีร่ำรวยผิดปกติ ในโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวอีก 8 ราย โดยมีนักการเมือง 5 คน และเจ้าหน้าที่รัฐอีก 3 คน