ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทเอกชน ร้องศาลปกครองกลาง ไต่สวน รมว.คมนาคม ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ที่สั่งห้าม ขสมก. ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันจากบริษัท ช. ทวี

นายดรัณ ภูรีสถิต ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไต่สวนนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการณ์ ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และนายสมควร นาสนม ประธานกรรมการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันวงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) 

โดยกล่าวหาว่า นายอาคม มีพฤติกรรมยุยงส่งเสริมไม่ให้ ขสมก.ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง���มื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่สั่งห้าม ขสมก. และคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. นำมติบอร์ด ขสมก. ในการประชุมครั้งที่ 16/2560 ให้ขสมก. ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO โดย บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ไปดำเนินการใดที่มีผลผูกพันกับ ขสมก. และบอร์ดขสมก. เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา นายอาคม เปิดเผยต่อสื่อว่า ได้สั่งการให้ ขสมก. หารือกับอัยการสูงสุด เพื่อดูความชัดเจนและวิเคราะห์ข้อคำสั่งศาล เพื่อยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน และรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันจากลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดหารถ ซึ่ง ขสมก. ได้นำมาให้บริการไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมาจำนวน 100 คัน ซึ่งยังคงให้บริการประชาชนต่อไป และเดินหน้าตามสัญญา พร้อมทยอยรับมอบรถจนครบ 489 คันตามสัญญาที่ระบุไว้ รวมทั้งขอให้ศาลกำหนดบทลงโทษต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ขสมก. ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วนหรือปฏิบัติล่าช้าเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ตามมาตรา 75/4 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

สำหรับคดีนี้ บริษัท สนาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด เป็นผู้เข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2560 หลังจากที่ ขสมก.ยกเลิกสัญญาจัดซื้อฯ จากบริษัท เบสท์ริน แล้ว ได้ยื่นฟ้อง ขสมก. และบอร์ด ขสมก. โดยกล่าวหาว่า บอร์ด ขสมก. มีมติในการประชุมครั้งที่ 16/2560 ให้ ขสมก.ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จากกลุ่ม SCN-CHO โดยบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย