บรรยากาศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมคณะตรวจราชการ จ.กาญจนบุรี ได้พบปะและเยี่ยมชมกิจกรรมของกลุ่มภูมิเมืองกาญจน์ โดยมีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พร้อมสมาชิกกลุ่มภูมิเมืองกาญจน์ ต้อนรับและพาชมกิจกรรมต่างๆ เมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้ตีกลองสะบัดชัย ขณะที่นายเนาวรัตน์ได้มอบหนังสือบทกลอน 'เขียนแผ่นดิน' ที่ได้เขียนด้วยตัวเอง ช่วงเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ พร้อมเขียนข้อความลงบนหนังสือว่า "เขียนแผ่นดินแด่ ฯพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความคารวะผู้ดูแลแผ่นดิน"

โดยเมื่อเดินทางถึงกลุ่มกิจกรรมศิลปภาพวาด นายมิตรชาย ชื่นเงิน ครูสอนศิลปะได้มอบภาพวาด พล.อ.ประยุทธ์ สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ทบ. โดยนายกฯ บอกว่า "สวยเฉี่ยว ดูดีกว่าตัวจริง เข้าใจว่าเป็นรูปที่เหมือนที่สุด อาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำไป ขอบพระคุณมากๆ"

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชิมขนมพื้นบ้าน จ.กาญจนบุรี อาทิ ทองโยะ ขนมไข่กรอบ ซึ่งขณะที่นายกฯกำลังชิมขนมทองโย๊ะ ได้เรียก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ มาชิม พร้อมกับพูดหยอกว่า "ให้เขาทดลองกินก่อน แต่ผมพูดเล่นนะ ผมไว้ใจทุกเรื่อง" ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังชมระบำชนไก่ และการแสดงของวงโยธวาทิตโรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับพบประชาชน ที่โรงงานกระดาษไทย ซึ่งเป็นโรงงานกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ใช้ผลิตกระดาษและธนบัตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยระบุว่า รู้สึกดีใจที่เห็นประชาชนมาต้อนรับจำนวนมากกว่าที่อื่น ซึ่งตนต้องการมาเยี่ยมเยียนไม่ได้มาเพื่อจุดมุ่งหมายอื่น ที่ผ่านมาเคยมาเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่เป็นทหารชั้นผู้น้อย จนตอนนี้เป็นชั้นผู้ใหญ่ โดยได้เห็นหลายอย่างดีขึ้นตามลำดับจากการทำงานที่ผ่านมาของทุกรัฐบาลจนรัฐบาลนี้มาสานต่อ และแก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรคเพื่อเดินหน้าประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน จึงขอให้ทุกภาคส่วนรวมพลังกัน ขณะเดียวกันเรากำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่ขอให้ทุกคนช่วยขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งรัฐบาล เอกชน ประชาชน ประชาสังคมและทุกคนที่เป็นคนไทย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุ รัฐบาลนี้ดูแลคนทุกกลุ่ม จะให้ใครมากเกินไปไม่ได้ โดยต้องเป็นไปตามสัดส่วนการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งต่อไปนี้จะมีแผนงานที่ชัดเจนว่ากาญจนบุรีจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราถึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ครอบคลุม 6 ด้าน รวมถึงมีแผนการใช้จ่ายงบฯ ไม่ใช่ใช้เงินไปเรื่อยๆ ใช้เงินวันหน้าหมด โดยทุกรัฐบาลต่อไปต้องทำตามแผนเพื่อเป็นหลักในการเดินหน้า ส่วนเรื่องที่เหลือก็เป็นเรื่องการเมือง แต่ไม่ว่าใครจะมาบริหารต้องดูแลทั้งเสียงส่วนใหญ่และส่วนน้อย ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่แยกแยะดูแลคนแค่บางกลุ่ม และได้วางรากฐานไว้ให้ วันหน้าก็มีรัฐบาลต่อไปเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งวันนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาในทุกเรื่องถ้าติติงกันไปมาแก้ไม่ได้ทั้งหมด 

พ���.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนเองอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกับทุกคน ส่วนเรื่องการทุจริตต่างๆ ไม่ว่าพลเรือน ตำรวจและทหาร หากมีการร้องเรียนจะตรวจสอบทันที ไม่ต้องกลัว ส่งข้อมูลมาได้ จะให้ตรวจสอบทุกโครงการ นอกจากนี้ประเทศไทยมีการใช้โทรศัพท์มากที่สุด มีคนอยู่ 67 ล้านคน แต่มีโทรศัพท์มากกว่า 100 ล้านเครื่อง ดังนั้นเราจะต้องใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์ให้ได้มากที่สุด อย่าไปใช้เพื่อสร้างความขัดแย้ง อย่าไปสนใจเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง ไม่เป็นเรื่องไม่เป็นราว พอไปสนใจก็วิตกทุกข์ร้อนไปทั้งหมด ใครพูดอะไรมาก็รับหมด อย่างนั้นไม่ได้ นายกฯ เองก็ต้องแยกแยะ ขอฝากทุกคนจะได้มีความทุกข์ลดลง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า เราจะต้องทำให้บ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยปลอดภัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ปรับเปลี่ยนได้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จะต้องตั้งใจ และมีสิ่งยึดเหนี่ยวคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ก็จะไปได้ ขอทุกคนอย่าแตกแยกออกจากกันเด็ดขาด

พยานครูปรีชา ต้อนรับนายกฯ - ประชาชนชูป้ายเชียร์ลุงตู่อยู่นานๆ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังทักทายประชาชน โดยบอกว่า "ทุกอย่างจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ เราให้ความสำคัญกับท้องถิ่น ขอให้ทุกคนคิดถึงสิ่งที่ดีๆ ทุกอย่างจะสำเร็จหมด ใครเป็นหนี้นอกระบบไม่ต้องกลัวเดี๋ยวจะให้ตำรวจ ทหาร เข้าไปดูพวกที่รีดนาทาเร้น" พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ชมการแสดงที่มีการร้องเพลงฉ่อย ที่เนื้อหาพูดถึงของดีกาญจนบุรี และช่วงหนึ่งได้ร้องเป็นเพลงแร็ปที่ประชดประชันวัยรุ่นที่ไม่ค่อยให้ความสนใจเพลงพื้นบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ "เจ๊บ้าบิ่น" พยานฝั่งครูปรีชา ใคร่ครวญ ในคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท มาต้อนรับนายกฯ ด้วย ผู้สื่อข่าวสอบถาม โดยเจ๊บ้าบิ่น กล่าวว่า ไม่ได้มาร้องเรียนอะไร แต่มาร่วมงานในฐานะคนพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้นำลอตเตอรี่มาด้วยหรือไหม เจ๊บ้าบิ่น กล่าวว่า เอามาด้วยแต่ขายเป็นเล่ม ราคาเล่มละ 8,000 บาทเพราะเพิ่งไปรับมา ยังไม่ได้แบ่ง จากนั้นเจ๊บ้าบิ่นได้ถามว่า ผู้สื่อข่าวได้ถามนายกฯ เรื่องหวย 30 ล้านบาทบ้างไหม ลองถามนายกฯ เพราะมา จ.กาญจนบุรีทั้งที แต่ตนคงไม่ไปยื่นเรื่องให้นายกฯ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ทุกวันนี้ยังขายกลอตเตอรี่ตามปกติ ส่วนครูปรีชายังซื้อลอตเตอรี่ตามปกติ งวดละเป็นหมื่น

จากนั้น นายกฯ ได้นั่งรถรางเยี่ยมชมชุมชนปากแพรก ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนมายืนรอต้อนรับ โดยนายกฯได้ลงจากรถไปพูดคุยทักทาย ขณะที่นักเรียนโรงเรียนเทพมงคลรังสีได้มอบภาพวาดรูปเหมือนนายกฯ พร้อมชูป้ายที่เขียนข้อความให้กำลังใจนายกฯ อาทิ "ลุงตู่อยู่นานๆ ใครไม่รักแต่บ้านนี้รัก"

หญิงวัย 65 ปีขอกอดนายกฯ แซวกลับให้อยู่ต่อจะถูกไล่

ต่อมานายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ก่อนเดินทางโดยเรือ เพื่อตรวจลำน้ำบริเวณแม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแม่กลอง จากท่าแพวัดเทวสังฆาราม ไปยังท่าแพเขื่อนขุนแผน เทศบาลเมืองกาญจนบุรี พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า สัญญากันนะว่าจะปรับปรุง แต่จะพยายามไม่ให้ใครเดือดร้อน อะไรที่ไม่เคยเปลี่ยนก็เปลี่ยนบ้าง ถามว่าแพเธคเสียงดังหรือไม่ ลองเปิดแล้วขึ้นมายืนบนฝั่งฟังดู ยืนยันตนไม่ได้ต้องการทำลายธุรกิจของใคร ทุกอย่างอยู่ที่พวกเราทุกคนว่าสิ่งที่พูดมาทำได้ทั้งหมดหรือไม่ มีแพอยู่เต็มไปหมด ก็ต้องนึกถึงเจ้าของพื้นที่ด้วย ต้องแบ่งปันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ความเป็นธรรม คนก็จะมาเที่ยวเมืองกาญจน์เยอะขึ้น แต่ถ้ามาแล้วเจอแต่แพ คนก็อาจจะมาเที่ยวน้อยลง หากจัดระเบียบไม่ดี ไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่มีใครอยากมา รัฐบาลค้ำประกันไม่ได้ พวกเราต้องช่วยกัน นายกฯก็ไม่อยากทำให้วุ่นวาย ขอบคุณทุกคน คนปัจจุบันและรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่ายินยอมให้ใครมาเรียกรับผลประโยชน์ ใครเรียกรับผลประโยชน์ให้มาบอก รัฐบาลไม่มีนโยบายรับผลประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้าไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ประเทศต้องเปลี่ยนให้ได้ในยุคสมัยเรา ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังวางแผนจะเอาคนมาเที่ยวที่นี่เพิ่มขึ้น ถ้าผู้ประกอบการนึกถึงคนอื่นก็จะได้อะไรกลับมาอีกเยอะ 

ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกฯกำลังพูดกับชาวแพ มีหญิงวัย 65 ปีพูดแทรกขึ้นมาว่า นายกฯขอกอดทีได้ไหม นายกฯตอบกลับว่า เกี่ยวกับแพตรงไหน หญิงคนดังกล่าวจึงตอบว่า เกี่ยวกับความชอบ ขอให้เป็นนายกฯ 20 ปี ก่อนเข้าสวมกอดนายกฯ ขณะที่นายกฯกล่าวว่า “ให้ผมอยู่ต่อเดี๋ยวชาวแพจะไล่ผมก่อน อย่าเพิ่งมาไล่ก่อนเลย เดี๋ยวอะไรก็จะดีขึ้น” 

ส่วนในตอนท้ายนายกฯกล่าวด้วยว่า ตนพูดอะไรก็ต้องทำ ขอให้ทุกคนช่วยกันต่อไป พร้อมให้นักเรียนกล่าวคำปฏิญาณกฎของลูกเสือ 3 ข้อด้วย

นายกฯ เปรยจะเป็นลมลงพื้นที่หนัก

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเปิดโครงการ green army, green farmer เพื่อประเทศชาติและประชาชน ที่มณฑลทหารบกที่ 17 ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือด้านเกษตรและอาหารปลอดภัย โดยใช้พื้นที่ทหารเป็นพื้นที่ฐานการผลิต เนื่องจากมีจุดเด่นหลายประการสามารถกำจัดขอบเขตการดูแลได้ง่าย และมีศักยภาพในการศึกษาเรียนรู้การเกษตรแบบครบวงจรภายใต้ศาสตร์พระราชา

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า วันนี้ตนเดินทางพบประชาชนพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีจนจะเป็นลมอยู่แล้วเนื่องจากห้องที่จัดเหมือนเตาอบ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของบรรดาประชาชนแล้วก็ฟื้นและรู้สึกดีใจที่เห็นรอยยิ้ม กอดให้ความสำคัญกับจังหวัดกาญจนบุรีมีโอกาสหมุนเวียนได้พบปะพื้นที่ต่างๆเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลรวมไปถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ หลังจากที่ตนได้กินข้าวก็เดินทางมาเยี่ยมทหารซะหน่อย เนื่องทหารเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน และรู้สึกดีใจที่ได้พบกับเกษตรกร

โดย นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า เกษตรกรหากต้องการได้รับใบรับรองเกษตร GAP ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย วันนี้เกษตรไม่ใช่เรื่องที่ง่ายต้องอาศัยเทคโนโลยีการขายต่างประเทศที่ต้องดูตั้งแต่ต้นทางการผลิต พี่จะต้องลดการลงทุนและลดการใช้สารเคมีสู่การไม่ใช้เปลี่ยนจากเกษตรดั่งเดิมเป็นเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดภัย โดยการปลูกต้องคำนึกถึงตลาดผ่านบิ๊กดาต้า แม้ว่าจะยากแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารของเกษตรกร รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเรื่องเงินการลงทุน และส่งเสริมการตลาด ทุกอย่างมีต้นทุนสูงขึ้น ผลผลิตลดลง ตนขอฝากข้าราชการติดตามตาม Agrimap ซึ่งอยากให้ศูนย์การเรียนรู้นำมาศึกษาด้วย เพราะ Agrimap จะนำไปสู่การเชื่อมโยงเกษตรพื้นที่อื่น ทุกวันนี้เกิดสงครามทางการค้า บางประเทศนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูกในประเทศของตนเอง ซึ่งเราเองต้องพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ชี้ ข้าวไทยตกอันดับเพราะไม่ได้สนใจส่งประกวดส่งเพียงแค่บริษัทเดียวจึงทำให้แพ้ 

ย้ำแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำไม่ได้ - ยกยุทธศาสตร์ชาติดูแลประชาชน

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่าราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำลงรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้มากนักเนื่องจากมีอีกหลายงานที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก พร้อมย้ำว่า งานว่ารัฐบาล คสช. ไม่ได้ทำหนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น ขออย่ากังวลแม้รัฐบาลจะลงทุนเป็นจำนวนมาก ที่สามารถควบคุมงบประมาณตามกรอบของกฎหมายได้ ในช่วงที่ผ่านมามีการบริหารจัดการข้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากกว่า 8 แสนล้าน ที่ต้องตามแก้ไขอย่ากลับไปสู่วังวนเดิม อย่าสนใจใครบอกจะให้เท่าไหร่ไม่สามารถทำได้ อย่ามองว่าประเทศเป็นมหาอำนาจด้านการเกษตร อย่ามองแค่ปริมาณการปลูก ต้องมองการจำหน่ายด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการเขียนยุทธศาสตร์ชาติเป็นการดูแลประชาชนทั้งเสียงส่วนใหญ่และส่วนน้อย สิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้านหรือประชาชนทหารยินดีให้ใช้พื้นที่ ส่วนที่หลายคนตั้งคำถามว่ามีไว้ทำไมที่หลายคนชอบถาม ถ้าไม่มีพื้นที่ทหารที่ดูแลอยู่ก็ไม่มีที่อีกต่อไปหลายคนพยายามสร้างความเข้าใจที่บิดเบือนให้กับทหาร ตนเป็นทหารมาก่อน วันนี้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยังมีจิตสำนึกที่ดีของทหารอยู่ และสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือการทำการเมืองให้โปร่งใสสะอาดมีประสิทธิภาพหากมุ่งเน้นการเลือกตั้งอย่างเดียวตามกระแสอย่างนี้ก็คงไม่ได้ยังไงก็คงเลือกตั้งแน่นอนใครจะพูดอะไรก็เรื่องของเขาจะฟังแค่ไหนก็เรื่องของท่าน หากไม่มียุทธศาสตร์ก็ทำไม่ได้แต่จะกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก จะเห็นได้จากโครงการที่เขียนมาหลายปีแต่ไม่สามารถทำได้

ทั้งนี้ยังย้ำอีกว่า ทุกอย่างกำลังเดินได้ไปดี และไปสู่ประชาธิปไตย ขออย่าให้กลับมาสู่ความขัดแย้ง ต่างประเทศเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยและไม่รังเกียจ ตนมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพอยู่แล้วอย่าทำอย่างอื่นมาทำลายศักยภาพที่มีอยู่ แม้ตนจะเป็นอย่างนี้ต่างประเทศก็ยังคุยและเจรจากับตนทั้งการลงทุนกติกาการค้าการให้สิทธิประโยชน์ซึ่งให้ในกรอบที่ดูแลได้แต่ไม่ต้องการให้ทรัพย์สมบัติเป็นของใครเป็นเพียงการเช่าเท่านั้นถึงเวลาทุกอย่างจะกลับเป็นของรัฐขอให้ทุกคนคิดใหม่ทำใหม่อย่าคิดจะขอตัวเองไม่คิดถึงคนอื่นด้วย ประเทศไทยเราต้องไม่แบ่งแยกกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้รัฐบาลดูแลโรงพยาบาลกว่าหมื่นแห่งและอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาสุขภาพ ไม่ป่วยไม่ดีกว่าหรอ ตนไม่ได้ห้ามป่วยตอนนี้คนก็เป็นหวัดคัดจมูกอยากให้ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ทุกวันนี้ลูกหลานตัวเล็กลงทุกวันต้องบอกให้ออกกำลังกาย  

และยังกล่าวติดตลกอีกว่าหากจะเลือกสามีต้องเลือกที่ดีมีหลักมีเกณฑ์ไม่ใช่แอ๊คอาร์ต และกล่าวกับเกษตรกรว่าให้ปลูกไม้เศรษฐกิจมีค่าหัวไร่ปลายนา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• นายกฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองกาญจน์ ขอบ้านเมืองสงบสุขเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย