ไม่พบผลการค้นหา
เสียงสะท้อนจากฝ่ายการเมือง แนะรัฐบาลเร่งคืนอำนาจประชาชน สร้างความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ หลังอียูเตรียมรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย ภายหลังการจัดเลือกตั้ง

รวมความคิดเห็นนักการเมืองและรัฐบาล ต่อกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป หรือ EU มีมติรื้อฟื้นความสัมพันธ์การเมืองระหว่างประเทศกับไทย ภายใต้เงื่อนไขต้องยกเลิกข้อจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ปลดล็อกพรรคการเมือง เคารพการทำงานของนักสิทธิมนุษยชน และต้องจัดเลือกตั้งตามที่ได้ประกาศคำสัญญาไว้ ซึ่งก่อนหน้าที่EU ลดระดับความสัมพันธ์กับไทย นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 

โดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่าจาก 14 ข้อเรียกร้องของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศEU สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้ว่าทิศทางของประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลคสช. เรียกประชุมเพื่อกำหนดแนวทางคืนอำนาจให้แก่ประชาชนเพื่อความสง่างาม และเชื่อมโยงให้ได้รับการยอมรับจากสากล

ขณะที่ฟากฝั่งจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่า 'ก็ดีแล้วหนิ' ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นความพยายามของรัฐบาลที่ทำมาตลอด 3 ปี และอยากให้อียู เข้าใจการทำงานและแก้ปัญหาภายในของไทย

อย่างไรก็ดีตามมติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าEUเห็นถึงความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่จะนำพาประเทษเดินหน้า ขณะเดียวกันยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีแนวคิดขยายเวลาโรดแมปการเลือกตั้ง หากกฎหมายลูกแล้วเสร็จก็จะเริ่มดำเนินการเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน

ส่วนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นการผ่อนคลายความตรึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และไทยเองก็ยินดีที่ความสัมพันธ์ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง และมั่นใจว่าจะมีการพัฒนาความร่วมมือในหลายด้านๆดีขึ้น