สิ่งแวดล้อม
7 หมื่นคนลงชื่อจี้เอาผิด คดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ ต้องโปร่งใส-มาตรฐานเดียวกัน
หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 ที่มีการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะรวม 4 คน จากการเข้าไปตั้งแคมป์พักในจุดห้ามตั้งภายในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ซากเสือดำ เก้ง ไก่ฟ้าหลังเทา และอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง และมีการฟ้องร้องดำเนินคดี
ล่าสุด นายตุลย์พิชญ์ แก้วม่วง เปิดแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org เรียกร้องให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ ต้องโปร่งใส มีมาตรฐานแบบเดียวกันทุกคดี โดยชี้แจงว่า จากกรณีพบกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปล่าสัตว์ และพบซากของสัตว์ป่า (เสือดำ) บริเวณเต็นท์ที่พัก ในเขตพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่���ใหญ่-ห้วยขาแข้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโก (UNESCO) นอกจากนี้กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีตำแหน่งใหญ่โตมีหน้ามีตาในสังคม ประชาชนหลายคนจึงกังวลเรื่องความโปร่งใสการทำคดี ว่าอาจจะไม่มีมาตรฐานเดียวกัน กับคดีหาของป่าหรือล่าสัตว์ที่เคยเป็นคดีในกระแสสังคมก่อนหน้านี้
ซึ่งขณะนี้มีประชาชนเข้าไปร่วมลงชื่อรณรงค์แล้วเกือบ 7 หมื่นรายชื่อ โดยความเห็นส่วนใหญ่ของผู้ที่เข้าไปลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้ คือ อยากให้ภาครัฐแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง และการไม่เลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย อีกทั้งไม่ต้องการให้อำนาจเงินอยู่เหนือความถูกต้องด้วย
ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีนายเปรมชัย ว่าต้องดำเนินการคดีตามกฎหมายและขั้นตอนของกระบวนยุติธรรม ขอสื่ออย่าไปเขียนให้เลอะเทอะ หากใครจะกล้าเข้าช่วยเหลือก็ตามใจ และจะต้องถูกลงโทษอีก เพราะช่วยกันไม่ได้ผิดก็คือผิด จะใหญ่แต่ก็ผิดก็คือผิด หากพิสูจน์ได้ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาตรวจสอบมาตามหลักฐาน
โดยเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านของนายเปรมชัย ที่ซอยศูนย์วิจัย 3 เขตห้วยขวาง พบงาช้าง 2 คู่ และอาวุธปืนรวม 43 กระบอก โดยภรรยาของนายเปรมชัยอ้างว่า งาช้างที่พบนั้นมีใบอนุญาตในการครอบครองถูกต้อง แต่ไม่มีสติกเกอร์ติดอยู่ที่งาช้างเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดให้กรมอุทยานฯตรวจสอบว่าเป็นงาช้างชิ้นเดียวกับที่ขอใบอนุญาตไว้หรือไม่แล้ว
ส่วนในวันนี้ (8 ก.พ.) พล.ต.อ. ศรีวราห์ จะเชิญเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯที่เข้าเวร และมีหน้าที่เกี่ยวข้องในช่วงที่นายเปรมชัย และพวกเดินทางเข้าป่ามาสอบปากคำให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีลักลอบฆ่าสัตว์ป่า รวมถึงกรณีที่มีคลิปเสียงอ้างเป็นของนายเปรมชัย เผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ลักษณะเจรจาต่อรองเมื่อถูกจับกุม โดยจะพิจารณาหลักฐานในประเด็นนี้ หากมีหลักฐานหรือข้อมูลที่ชี้ว่ามีความพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานก็จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ปรากฎเป็นเจ้าของเสียงในคลิปเสียงข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานด้วย
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เคยมีแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org มาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561 นายอรรถกร ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เปิดแคมเปญชื่อ "ร่วมกันบอยคอตบริษัทไทยอิตาเลียน คดีล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวรของประธานบริษัท 6 ข้อหา" ซึ่งมีผู้เข้าไปลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้แล้วราว 60,600 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
