ไม่พบผลการค้นหา
พรรคการเมืองสนับสนุนแนวคิดอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า พร้อมแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติที่เป็นตัวขัดขวาง นักวิชาการค้านนำไปผูกโยงบัตรคนจน

เวทีวิชาการเรื่อง 'นโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 0-6 ปี แบบถ้วนหน้า จุดเริ่มต้นของสวัสดิการสังคมทั้งระบบ' จัดโดยเครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า 109 องค์กร

นางสุนี ไชยรส จากวิทยาลัยนวัตกรรม ม.รังสิต ยืนยันว่า การอุดหนุนเงินเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ถือเป็นสิทธิสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลต้องดำเนินการ 

ข้อเสนอเชิงนโยบาย คือขอให้มีสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กอายุ 0-6 ปี เดือนละ 600 บาทแบบถ้วนหน้า แต่ในปัจจุบันที่รัฐออกกฎเกณฑ์คัดกรอง ด้วยการให้เงินอุดหนุนเฉพาะเด็กอายุ 0-3 ปี เดือนละ 600 บาท ในครอบครัวที่ยากจนที่มีรายได้ครัวเรือนต่ำกว่า 3,000 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น ทำให้เกิดการตกหล่นของคนจนจำนวนมาก โดยจากการศึกษาพบว่ายิ่งสร้างการคัดกรองมากเพียงใด จะยิ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาการตกหล่นได้

ทั้งนี้ นางสุนี ไม่เห็นด้วยและขอให้จับตารัฐบาลที่มีความพยายามนำประเด็นนี้ไปรวมอยู่กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะการเพิ่มการคัดกรองในประเด็นรายได้ของครัวเรือนเพิ่มเป็น 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ขอตั้งคำถามไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะมีท่าทีเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างไร การอุดหนุนเด็กเล็กควรนำไปผูกกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่

ขณะที่ตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ต่างเห็นด้วยและสนับสนุนในเรื่องนี้

นายสมชาย กระจ่างแสง ประธานภาคกลางพรรคสามัญชน ยืนยันว่าพรรคสามัญชนสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะสามารถเกลี่ยงบประมาณ และตัดลดงบฯ ในกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม เพื่อนำมาใช้ดำเนินการ ขณะเดียวกันการเดินหน้าไปสู่รัฐสวัสดิการที่ถือเป็นสิทธิของคนทุกคน การจ่ายเงินเพียงเดือนละ 600 บาทนี้อาจไม่เพียงพอเพราะเป็นเพียงการสงเคราะห์เท่านั้น

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า พรรคชาติไทยพัฒนาสนับสนุนแนวคิดนี้ แต่การดำเนินการไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะติดปัญหาเรื่องของงบประมาณ จากการที่มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีครอบอยู่ ดังนั้นหากพรรคการเมืองต่างๆ เห็นพ้องร่วมกัน สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ด้วยการแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติ โดยผ่านกระบวนการในสภาผู้แทนราษฎร

ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ประเด็นนี้สอดคล้องกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งระบบ ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นวาระแห่งชาติ โดยพรรคเพื่อไทยจะพิจารณาแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ขีดเส้นพรรคการเมืองต่างๆ ในการดำเนินนโยบาย แต่ด้วยประสบการณ์ของพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขปัญหาความยากจน และการที่มีทีมเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพ ทำให้เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถขับเคลื่อนในเรื่องนี้ได้