ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ธ.ค.) ชาวบ้านเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเดินทางมาให้กำลังใจกับแกนนำ 15 คนที่มารายงานตัวต่อศาลจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 2 หลังถูกจับกุมระหว่างการสลายการชุมนุมทำกิจกรรมเดิน "เทใจให้เทพา เดินหานายกฯ หยุดทำลายชุมชน" โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับผู้ต้องหาในคดีทั้ง 15 คนนั้นได้เดินทางมารายงานครบทั้งหมด และมีตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาให้กำลังใจก่อนจะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ของศาลจังหวัดสงขลาเพื่อรายงานตัว และร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถือแผ่นป้ายขนาดใหญ่ "หยุดการพัฒนาหยุดทำลายชุมชน และไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน" บริเวณริมถนนหน้าศาลจังหวัดสงขลา พร้อมร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และเข้ารายงานตัวต่อศาล ตามกำหนดโดยในกรณีนี้มีผู้ถูกจับกุมจำนวน 16 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 1 คน ถูกแยกดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา

ในขณะที่ นักวิชาการ 114 คนได้ร่วมกันลงชื่อและออกแถลงการณ์ในนามเครือข่ายนักวิชาการยืนเคียงข้างประชาชนเพื่อหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ในฐานะนายประกัน ให้แก่การต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิชุมชนของพี่น้องประชาชนชาวเทพายืนยันที่จะพยายามช่วยเหลือประชาชนที่ลุกขึ้นมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีพี่น้องประชาชนชาวเทพาด้วยการรวบรวมรายชื่อนักวิชาการเพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยเป็น “นายประกัน”ให้ประชาชนมีขวัญและกำลังใจในการปกป้องฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา เครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนำโดย นายหลี สาเมาะ อดีตกำนันตำบลปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ทุกตำบลใน อ.เทพา จ.สงขลา และกลุ่มพลังมวลชนอื่นๆ ได้มีการรวมตัวกันได้รวมตัวกันที่ลานวัฒนธรรม หน้าที่ว่าการอำเภอเทพาเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โดยได้ออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ และจะส่งแถลงการณ์ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผ่านนายอำเภอเทพา จ.สงขลา เพื่อให้ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งการให้สร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเพราะเป็นความต้องการของคนอำเภอเทพา

สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลานั้น ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลได้ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” เมื่อวันที่ 30 พ.ย. โดยระบุว่า รัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเทพาที่มีกำลังผลิต 2,200 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการนโยบายพลังานแห่งชาติและจะพิจารณาอย่างรอบคอบ