ในวันแรงงานสากล แรงงานไทยได้เดินขบวนประท้วงในวันแรงงาน และยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาล ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปรับฐานเงินบำนาญ คุ้มครองสิทธิแรงงานในกรณีการถูกเลิกจ้าง ไปจนถึงการเรียกร้องให้ไทยลงสัตยาบันอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและคุ้มครองสิทธิการรวมตัวกัน และการปฏิบัติตามหลักการแห่งสิทธิในการรวมตัว และการร่วมเจรจาต่อรอง

กัมพูชา

สหภาพแรงงานกัมพูชาถูกกระทรวงแรงงานสั่งห้ามชุมนุมตลอดทั้งวันนี้ โดยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของกัมพูชาระบุว่า วันแรงงานควรเป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แก้ปัญหาร่วมกัน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลเคารพเสรีภาพในการชุมนุมและเสรีภาพในการแสดงออก รัฐบาลไม่ห้ามการชุมนุมเฉลิมฉลองที่สนุกสนาน แต่เขาจึงไม่เห็นด้วยกับคำร้องขอเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนของสหภาพแรงงาน หนึ่งที่มีสมาชิกประมาณ 2,000 คน และมองว่าแรงงานควรเคารพเจ้าหน้าที่และความปลอดภัยของสาธารณะ อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานก็ยังออกมาเดินขบวนประท้วงกันในกรุงพนมเปญกันได้

ฟิลิปปินส์

นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ลงนามบังคับใช้คำสั่งประธานาธิบดีในการแบนสัญญา จ้างงานระยะสั้นอย่างผิดกฎหมาย และแบนสัญญาที่กระทบกับความมั่นคงทางอาชีพการทำงาน หลังทางการฟิลิปปินส์เคยออกรายงานการประเมินปี 2016 ว่าแรงงานถึง 2 ใน 3 ในฟิลิปปินส์เป็นแรงงานสัญญาจ้างระยะสั้น ซึ่งมักเป็นสัญญาจ้างงาน 5 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่กำหนดให้นายจ้างเปลี่ยนสถานะแรงงานชั่วคราวที่ทำ งาน 6 เดือนขึ้นไปเป็นแรงงานประจำ

อย่างไรก็ตาม แรงงานหลายหมื่นคนออกมาประท้วงว่านายดูแตร์เตไม่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับ แรงงานในช่วงหาเสียงหลายข้อ รวมถึงเรื่องการแบนสัญญาจ้างงานระยะสั้น โดยฝ่ายแรงงานมองว่าคำสั่งของนายดูแตร์เตเป็นการทรยศแรงงาน ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งแบนการทำสัญญาจ้างระยะสั้นทั้งหมด นอกจากนี้ แรงงานยังได้เรียกร้องการแก้ไขปัญหาค่าแรงน้อย การว่างงาน และการกดขี่จากสหภาพการค้า

อินโดนีเซีย

แรงงานประมาณ 10,000 คนได้เดินขบวนไปใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มค่าแรง ปรับปรุงสวัสดิการการทำงานของแรงงาน รวมถึงลดราคาค่าข้าว ค่าไฟฟ้า และค่าเชื้อเพลิง นอกจากนี้ สหภาพแรงงานอินโดนีเซียยังเรียกร้องให้รัฐบาลห้ามแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ไม่ให้เข้าไปแย่งงานชาวอินโดนีเซีย รวมถึงห้ามเอาท์ซอร์สด้วย

มาเลเซีย

นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมในวันแรงงานว่า หากเขาชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 9 พฤษภาคม เขาจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และเขาจะอนุมัติงบประมาณสำหรับแรงงานมีทักษะประมาณ 1,600 ล้านบาท และจะทุ่มเงินอีกเกือบ 500 ล้านสำหรับโครงการประกันสำหรับแรงงานและปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่ ลาคลอด

สิงคโปร์

นายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวในวันแรงงานว่า ชาวสิงคโปร์รุ่นบุกเบิกได้ทำให้สิงคโปร์ขึ้นมาเป็นประเทศโลกที่หน่งแล้ว หน้าที่ของคนรุ่นนี้คือการร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศต่อไป พร้อมเตือนให้แรงงานและธุรกิจในสิงคโปร์ปรับปรุงและพัฒนาทักษะ รวมถึงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามาแทนที่งานบางอย่าง

ที่มา: Khmer Times, Strait Times, Jabar News, Reuters