มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ชี้แจง ตามที่ปรากฏข้าวหายไปจากบัญชีร่วมล้านตันมูลค่าความเสียหายนับแสนล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวมีการอ้างว่า ทราบมาตั้งแต่หลังการยึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 แล้ว แต่พบว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถตรวจสอบให้ได้ข้อยุติแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบต่อการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวและการระบายสต็อกข้าวสารในปัจจุบันด้วย
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า การประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐครั้งนี้ มีตัวเลขปริมาณข้าวแต่ละชนิด แต่ละโกดัง แต่ละปีอย่างชัดเจน ซึ่งถือได้ว่ามีตัวเลขที่น่าเชื่อถือปรากฏอยู่ จึงมีข้อสังเกตตามมาว่า แล้วตัวเลขในการบันทึกบัญชีมีหรือไม่ และตรงกันหรือไม่ มีเอกสารทางบัญชีใดมายืนยัน หรือไม่ แต่หากพิจารณารายการที่จะเปิดประมูลจะพบว่าข้าวสารส่วนใหญ่เป็นข้าวสารที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่หากดูในรายละเอียด ก็จะพบเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะข้าว 2 ส่วนนี้ มีข้าวนาปรัง 2551 ที่เป็นข้าวปทุมธานี อยู่ที่คลังสินค้า อ.ต.ก. จ.ชัยนาท จำนวน 27 ตัน และข้าวนาปี 2551/52 ที่เป็นข้าวขาว 15% อยู่ที่คลังสินค้า อคส. จ.สงขลา จำนวน 37 ตัน และมีข้าวนาปรัง 2551 ที่เป็นข้าวปทุมธานี อยู่ที่คลังสินค้า อ.ต.ก. จ.นครสวรรค์ จำนวน 90 ตัน รวมอยู่ด้วย ซึ่งข้าวทั้ง 3 รายการดังกล่าว น่าจะเป็นข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ถ้าข้าวนาปรัง 2551 และข้าวนาปี 2551/52 ทั้ง 3 รายการ รวมกันได้ประมาณ 154 ตัน ยังคงเหลืออยู่ให้นำมาประมูลขายได้ แสดงว่า ข้าวสามารถเก็บไว้ได้นานไม่ได้เสื่อมสภาพเร็วแต่อย่างใด ดังนั้น กรณีที่มีการกล่าวหามาตั้งแต่พฤษภาคม 2557 ว่าข้าวในโครงการรับจำนำข้าวสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีการเสื่อมสภาพเป็นจำนวนมากนั้น จึงอาจมีพิรุธน่าสงสัย อีกทั้งยังมีข่าวว่าข้าวหายไปจากบัญชีอีกร่วมล้านตัน ซึ่งต้องตรวจสอบได้เช่นกันว่าเป็นข้าวชนิดใด อยู่ในคลังสินค้า อคส. หรือ อ.ต.ก. จำนวนเท่าใด แยกเป็นคลังสินค้าจังหวัดใดบ้าง ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศกำลังเปิดประมูลเพื่อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐอีก 2 ส่วน คือ 1. ข้าวสารที่ไม่ใช่การบริโภคของคน จำนวน 245,077 ตัน โดยจะเปิดซองเสนอซื้อในวันที่ 29 สิงหาคม และ 2. ข้าวสารที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ จำนวน 22,341 ตัน โดยจะเปิดซองเสนอซื้อในวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งข้าวสารทั้งสองส่วนนี้เก็บอยู่ที่คลังสินค้าของ อคส. และ อ.ต.ก. ตามจังหวัดต่าง ๆ
วันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล ให้ตรวจสอบเรื่องข้าวหายไปจากบัญชีด้วย รวมทั้งจะถามว่า ทำไมข้าวที่เก็บมาสิบปียังสามารถนำมาขายได้ และเมื่อกรมการค้าต่างประเทศขายข้าวสารแล้ว หน่วยงานใดรับผิดชอบในการลงบัญชี และเงินที่ขายได้นำไปไหน
'หมอวรงค์' เตรียมยื่นศาลฯ นักการเมือง เอาผิดเรืองไกร
นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Warong Dechgitvigrom' ว่าตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฏหมายพรรคเพื่อไทย ได้นำเสนอข้อมูลการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวในเชิงตั้งคำถามว่า "ไม่มีการขาดทุน ทั้งๆ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาออกมาแล้ว นำไปสู่ความสับสนของประชาชน" และมีผู้ไม่หวังดี นำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลในเพจ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด และหวังผลทางการเมือง
ตนเองและทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิจารณาว่ามีการกระทำละเมิดต่อศาล จากการบิดเบือนคำพิพากษาหรือไม่ มิเช่นนั้นจะเป็นการเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งจะไปยื่นเอกสารร้องเรียนในสัปดาห์หน้า