นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เป็นต้นไป รถไฟฟ้าบีทีเอสจะปรับรูปแบบการเดินรถแบบต่อเนื่องในสายสุขุมวิท โดยจะให้บริการจากสถานีหมอชิต-สถานีเคหะฯ – สถานีหมอชิต นอกช่วงเวลาเร่งด่วนโดยผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีสำโรง
สำหรับรูปแบบการเดินรถนั้น จะแบ่งออกเป็นช่วงนอกเวลาเร่งด่วนบีทีเอสจะเดินรถต่อเนื่องตั้งแต่สถานีหมอชิต – สถานีเคหะฯ – สถานีหมอชิต โดยผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีสำโรง ตามเวลาที่ระบุในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 06.00 – 07.00 น. , 09.00 – 17.00 น. , เวลา 20.00 – 24.00 น. และในวันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เดินรถต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ส่วนช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า – เย็น วันธรรมดาขบวนรถจะให้บริการเดินรถสลับขบวนจากสถานีหมอชิต – สถานีสำโรง – สถานีหมอชิต และจากสถานีหมอชิต – สถานีเคหะฯ- สถานีหมอชิต ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวผู้โดยสารสามารถสังเกตจากป้ายบอกปลายทาง การให้บริการบริเวณด้านหน้าขบวนรถและจากเสียงประกาศการบริการปลายทางภายในขบวนรถ
สำหรับตารางการเดินรถของสายสีลม รูปแบบและความถี่ในการเดินรถยังคงเป็นเหมือนเดิม โดยช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น จะมีความถี่ในการเดินรถ 3.45 นาที ส่วนนอกช่วงเวลาเร่งด่วน ความถี่การเดินรถ 6 – 8 นาที ซึ่งหลังจากที่บีทีเอสเปิดเดินรถต่อเนื่องจากสถานีหมอชิต – สถานีเคหะฯ แล้ว บริษัทฯ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการใช้บริการของผู้โดยสารมากที่สุด