พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ร่วมแถลงผลการประชุมร่วม 2 หน่วยงาน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ประสานงานร่วมกัน
พล.อ.วิทวัส เป็นผู้แถลงว่า การประชุมร่วมมีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน โดยได้ข้อสรุปว่า หากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน พบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตต้องส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ส่วนคำร้องเรียนเมื่อพิจารณาแล้วมีทั้งเรื่องทุจริตและการไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือเดือดร้อนเสียหายของประชาชน จะแยกประเด็นส่งเรื่องทุจริตไปให้ ป.ป.ช.โดยยึดถือรายงานการสอบสวนของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่ามีความผิดทางวินัยหรือทางอาญาเป็นหลัก ส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ จะมีการเสริมสร้างการรับรู้ของประชาชนร่วมกัน ทั้งเรื่องธรรมาภิบาลของหน่วยงานรัฐและการทุจริต และได้มีข้อตกลงร่วมกันในการสร้างความเชื่อถือ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อปรับปรุงคะแนนตัวชี้วัดเรื่องการทุจริตในประเทศให้ดีขึ้น โดยจะมีการตั้งคณะทำงาน มีเลขาธิการของแต่ละสำนักงานทำหน้าที่ ในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันให้เป็นระบบออนไลน์ เพื่อให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแก้ไขปัญหา รวมทั้งติดตามเรื่องผู้ร้องเรียนว่าควรติดตามที่องค์กรใดด้วย
โดยหลังการแถลงข่าว สื่อมวลชนได้สอบถาม นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.ถึงความคืบหน้าคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้คำตอบว่า สำนักงาน ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการทำความเห็นส่งให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ได้ภายในปีนี้
