สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานนำเรือสปีดโบ๊ตของทางเกาะทะลุไฮแลนด์ รีอสร์ท นำนักท่องเที่ยวออกไปจากบริเวณปากคลองชะมวง หมู่ 10 บ้านหนองเสม็ด อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวทั้งไปดำน้ำที่เกาะทะลุไฮแลนด์ รีสอร์ท ขณะแล่นเรือออกจากฝั่งไปได้ประมาณ 3 กิโลเมตร พบเห็นฉลามวาฬตัวขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 6 - 7 เมตร 1 ตัว และยังมีอีก 3 ตัวขนาดตั้งแต่ 3 – 5 เมตร รวม 4 ตัว โผล่ขึ้นมาว่ายกินลูกปลาอยู่บริเวณแถบน้ำ
บริเวณดังกล่าวมีระดับน้ำลึกเพียง 7 - 8 เมตร สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปดำน้ำที่เกาะทะลุ ไฮแลนด์รีสอร์ท เป็นอย่างมาก โดยพนักงานจอดเรือสปีดโบ๊ตให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายรูปกัน ส่วนกลุ่มนักดำน้ำ จากสกรีนไดร์ฟไทยแลนด์ได้ดำนำลงไปดูและช่วยกันบันทึกภาพ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลของทางมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม และรายงานไปยังกรมทรัพยากรทางทะเล ให้รับทราบในเบื้องต้น
นายโสภณ กล่าวว่า ฉลามวาฬดังกล่าวว่ายเข้ามาเพื่อหากินที่บริเวณด่านหน้าเกาะทะลุ 1 ตัวเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา และต่อมาเมื่อวันที่ 22 ก.ย. พบเพิ่มเป็นจำนวน 4 ตัว โดยฉลามวาฬทั้ง 4 ตัว เข้ามาว่ายหากินตลอดเกือบทั้งวัน และเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ยังพบเห็นฉลามวาฬอีก 2 ตัวว่ายหากิน โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากบริเวณเกาะทะลุไฮแลนด์รีสอร์ท ประมาณ 4 กิโลเมตร และห่างจากบริเวณปากคลองชะมวง บ้านหนองเสม็ด อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่ง 2 – 3 วันที่ผ่านมาทะเลค่อนข้างเรียบ และไม่ค่อยมีคลื่นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม พนักงานของรีสอร์ทที่ขับเรือสปีดโบ๊ตพานักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำในช่วงที่พบเห็นฉลามวาฬ ว่ายหากินอยู่ในแถบนี้จะลดความเร็วลง และหากพบจะจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป โดยใช้เวลาไม่นานเพื่อไม่เป็นการรบกวนฉลามวาฬที่เข้ามาว่ายหากิน และมั่นใจว่าเป็นเพราะทะเลในบริเวณโดยรอบของเกาะทะลุ มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล ทั้งในเรื่องของแนวปะการังที่กำลังฟื้นตัว รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของชาวประมงพื้นบ้าน และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวให้การบริการพานักท่องเที่ยวไปชมความงามของปะการังบริเวณเกาะทะลุ คาดว่าช่วงนี้อาจเป็นไปได้ว่าฉลามวาฬยังคงว่ายหากินสัตว์น้ำอยู่บริเวณแถบนี้
รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการพบสัตว์ทะเลหายากอย่างฉลามวาฬว่ายเข้ามาหากินถึง 4 ตัว ในช่วงเดียวกัน เป็นการบ่งบอกถึงตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ในบริเวณเกาะทะลุได้เป็นอย่างดีแสดงให้เห็นว่ามีสัตว์น้ำในวัยอ่อน และแพลงตอนเกิดการสังเคราะห์แสงได้เพิ่มมากขึ้น ปะการังเริ่มฟื้นตัว
โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำในเรื่องของการดูแลและอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก เพราะสัตว์ทะเลหลายชนิดใกล้สูญพันธุ์ก็มี ตลอดจนการฟื้นฟูแนวปะการังและทรัพยากรทางทะเล
สิ่งหนึ่งที่สำคัญถือว่าเป็นความสำเร็จในการขณะนี้ เกิดจากความร่วมมือของชาวประมงพื้นบ้าน และเรือประมงพาณิชย์ พี่น้องเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่แถบเกาะทะลุ ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีส่วนร่วมช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลจนให้ให้ทะเลบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้มีการจัดวางปะการังเทียมในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย, อ.หัวหิน และในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เพราะจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน
การพบฉลามวาฬในครั้งนี้ ทางฝ่ายนักวิชาการของกรม ทช. จะมีการเก็บข้อมูลและภาพถ่ายเอาไว้ เพื่อเป็นฐานข้อมูลของสัตว์ทะเลหายากในแต่ละสถานที่ว่าพบที่จุดใดบ้าง ทำให้เราได้รู้ว่ามีการพบฉลามวาฬบ่อยขึ้น ซึ่งครั้งนี้ที่ได้รับรายงานพบถึง 4 ตัว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและอาจไม่พบเห็นบ่อยนักในรายงาน ส่วนใหญ่จะพบ 1 - 2 ตัว ทั้งที่ผ่านมาทั้งทะเลในแถบจังหวัดชุมพร มาจนถึงแนวเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือแม้แต่ทะเลแถบชายฝั่งบ้านเขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน และในอีกหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน
ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนที่พบเห็นอย่าพยายามไปแตะต้องหรือสัมผัสตัวฉลามวาฬ ห้ามให้อาหารโดยเด็ดขาด ลดความเร็วของเรือ ลดเสียงให้เบา รวมถึงควรจอดเรือลอยลำอยู่ห่างจากฉลามวาฬ และงดใช้แฟลชในการถ่ายรูปฉลามวาฬใต้น้ำอีกด้วย