ไม่พบผลการค้นหา
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ แนะกระทรวงศึกษาธิการตั้งกรรมการสอบอาจารย์ตำหนิและทำร้ายนักศึกษาที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตโกงเงินคนจนใรศูนย์คนไร้ที่พึ่ง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนผู้ยากไร้ของ พม. ว่าขณะนี้ทางกระทรวงและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ตลอด เพื่อให้การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นไปอย่างรอบคอบ และนำข้อมูลของแต่ละหน่วยงานมายืนยันเปรียบเทียบกัน แต่ตอนนี้ข้อมูลของ ป.ป.ท. กับของ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยังไม่ตรงกัน เนื่องจาก ป.ป.ท. ตรวจพบทุจริตเงินอุดหนุนในส่วนของศูนย์คนไร้ที่พึ่งและนิคมสร้างตนเองจำนวน 16 แห่ง และที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าอาจทุจริต 22 แห่ง แต่ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ รายงานว่าน้อยกว่า จึงต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลกัน 

อย่างไรก็ตาม จะพิจาณาอีกครั้งว่าจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารายงานความคืบหน้าการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทราบว่าจะได้ปรับย้ายตำแหน่งประมาณ 4-5 คน

ส่วนกรณีของ น.ส.ปณิตา ยศปัญญา นิสิตคณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ออกมาเปิดเผยว่า ถูกอาจารย์ประจำภาควิชาตำหนิ และทำร้ายร่างกายด้วยการทุบหลังนั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ต้องการให้การคุ้มครอง พร้อมแนะนำกระทรวงศึกษาธิการควรตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพราะถือว่านักศึกษาทำเรื่องที่ดี อาจารย์ไม่ควรปฏิบัติเช่นนั้น และทางมหาวิทยาลัยควรให้การดูแลนักศึกษาคนดังกล่าวด้วย และหากมีโอกาสจะเชิญ น.ส.ปณิตา มาพบและพูดคุยที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคมเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องดี 

ด้าน นพ. อุดม คชินธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส. ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมนุม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ออกมาเปิดเผยว่าถูกอาจารย์สั่งกราบเท้า และทุบหลังถึงสองครั้ง หลังออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ว่า นักศึกษาได้ทำในสิ่งดีงามและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ มหาวิทยาลัย ไม่ควรทำอะไรที่ปิดกั้น หรือเกิดความเสียหายและควรจะปกป้องเพราะเป็นสถาบันการศึกษา 

ทั้งนี้ตนขอเวลา 1-2 วันในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้สั่งให้ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาไปตรวจสอบและกลับมารายงานให้ตนได้ทราบถึงข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่ามีมูลความจริง ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพฤติกรรมของผู้บริหารมหาวิทยาลัยและอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง แต่เชื่อว่าผู้บริหารและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนันตพร' ยืนยัน 30 วัน รู้ผลสอบโกงเงินศูนย์คนไร้ที่พึ่ง