ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ญี่ปุ่น และภริยา รุดเยี่ยมผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่น 'พระพิรุณ' ที่เคลื่อนผ่านตอนกลางของญี่ปุ่นสัปดาห์ก่อน มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 200 ราย ส่วนอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'มาเรีย' กระทบโอกินาวะ คาดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากภัยธรรมชาติเพิ่มอีก

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และภริยา เดินทางเยือนศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่น 'พระพิรุณ' ในจังหวัดโอคายามะ พร้อมวางช่อดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 195 รายแล้ว เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของญี่ปุ่นระบุว่า อาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกหลายรายในพื้นที่ประสบภัยพิบัติที่เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด

AP-ญี่ปุ่น-ไต้ฝุ่นพระพิรุณ-ภัยธรรมชาติ-ก.ค.2561-ชินโซ อาเบะ-นายกญี่ปุ่น

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงโอคายามะ โอซะกะ เอฮิมะ และฮิโรชิมะ โดยบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายมีจำนวนกว่า 254,084 หลัง ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยราว 70,000 นาย กระจายตัวตามพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน 

AP-ญี่ปุ่น-ไต้ฝุ่นพระพิรุณ-ภัยธรรมชาติ-ก.ค.2561AFP-ญี่ปุ่น-ไต้ฝุ่นพระพิรุณ-ภัยธรรมชาติ-ก.ค.2561

อย่างไรก็ตาม ประชาชนใน จ.โอคายามะ และ จ.ฮิโรชิมะ ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ ประกอบกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงถึง 30 องศาเซลเซียส ทำให้เจ้าหน้าที่เตือนผู้สูงอายุ ระวังเกิดอาการขาดน้ำและเป็นลมแดด ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำและอาหารในหลายพื้นที่ เพราะถนนหลายสายถูกตัดขาด กระทบต่อการขนส่งสินค้า 

AFP-ญี่ปุ่น-ไต้ฝุ่นพระพิรุณ-ภัยธรรมชาติ-ก.ค.2561

ด้านนายโยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าภัยธรรมชาติในญี่ปุ่นทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เป็นผลจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและภาวะโลกร้อนที่กระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศติดทะเล รวมถึงญี่ปุ่น จึงมีความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง 

นอกจากนี้ พายุโซนร้อน 'มาเรีย' ซึ่งเคลื่อนผ่านประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อฝั่งทะเลเกาะโอกินาวะของญี่ปุ่น เมื่อ 11 ก.ค.ที่ผ่านมาเช่นกัน ทำให้เกิดฝนกระหน่ำ ลมกระโชกแรง ซัดทำลายบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลัง คาดว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก 

ที่มา: Japan News/ Kyodo News/ NHK/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: