ที่บริเวณหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 จ.มุกดาหาร พล.ต.สวราชย์ แสงผล รองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.พล.ร 3 พ.อ.ยุทธนา มหาวัน ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี (ร.3) พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผู้บังคับหน่วยกรมทหารพรานที่ 22 พร้อมด้วย บุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และมอบนโยบายในด้านการสกัดกั้นยาเสพติด การลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฏหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ covid-19
พล.ต.สวราชย์ ตรวจตรวจเยี่ยมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย - ลาว บริเวณบ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองจังหวัดมุกดาหาร ตรวจสอบโกดังเก็บสิ่งของ ที่อาจจะลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พร้อมระบุว่า การพื้นที่เพื่อมาดูการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วย ซึ่งนโยบายของรัฐบาล เพื่อป้องกันของการลักลอบนำสิ่งผิดกฏหมายตามแนวชายแดน เน้นทั้งเรื่องของยาเสพติด เรื่องของการลักลอบตมแนวชายแดน เน้นทั้งเรื่องของยาเสพติด เรื่องของการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี เฉพาะสินค้าเกษตรที่มีผลกระทบต่อเกษตรกรพี่น้องชาวไทย รวมไปถึงการกระทำความผิดของกฎหมายอื่น ๆ
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้ จะรวมถึงสถานการณ์โควิด-19 การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทย ถึงแม้ว่าประเทศเพื่อบ้านเอง สถานการณ์โรคระบาดการแพร่ระบาดยังไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามต้องมีมาตรการการป้องกันค่อนข้างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่หลัง ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงต้นปีงบประมาณของการผลัดเปลี่ยนกำลังก็จะมีกำลังบางส่วนที่ผลัดเปลี่ยน ต้องทำความเข้าใจกับพื้นที่ด้วย มาตรการของกำลังพลที่ปฎิบัติงานตามแนวชายแดน ก็คงจะต้องเข้มงวดขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อสภาพปัญหาพื้นที่มากขึ้น โดยในวันนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกข์ภาคส่วน ตลอดจนกำลังป้องกันชายแดนเอง ในส่วนของทางจังหวัดมุกดาหาร ในส่วนของตำรวจภูธร ในส่วนของศุลกากร ซึ่งที่ผ่านมาเราต้องร่วมกันปฎิบัติกันดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเข้มข้นในช่วงของการปฏิบัติ ต้องมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในวันนี้
สำหรับจังหวัดมุกดาหารซึ่งมีพรมแดนติดกับ สปป.ลาว โดยเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ได้เข้มงวดมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้ที่เดินทาง และแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย